“เล็บ” เป็นสิ่งหนึ่งในร่างกายที่สำคัญ สามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากภายนอก นับเป็นอวัยวะที่บ่งบอกความสวยงาม รวมถึงบ่งบอกถึงสุขภาพของเรา ณ ขณะนั้นได้ด้วย “เล็บ” ประกอบด้วยเซลล์ของผิวหนังที่ตาย และ เคราติน แต่สามารถเพิ่มความยาวได้ตลอดเวลาอัตราการงอกของเล็บจะมีประมาณ 0.1-0.2 มม. ต่อวันลักษณะเล็บปกติ จะมีสีชมพูอ่อนๆ เรียบเสมอกัน ไม่มีรอยหยัก หรือโค้งงอ
“โรคเล็บอักเสบ”
อาการผิดปกติของเล็บ กล่าวคือ ผิวหนังและเนื้อเยื่อรอบๆ เล็บจะบวม แดง ปวดตุบๆ กดเจ็บ ถ้าติดเชื้อแบคทีเรียเมื่อกดเนื้อรอบเล็บจะมีหนองสีเหลืองหรือสีเขียวซึมออกมาจากขอบเล็บทั้งนี้ สีของหนองจะขึ้นอยู่กับชนิดของเชื้อแบคทีเรีย เช่น ถ้าเกิดจากเชื้อราแคนดิดา หนองจะมีสีขาวขุ่นคล้ายนม มีกลิ่นเหม็น ถ้าเป็นซ้ำบ่อยๆ จะทำให้แผ่นเล็บไม่เรียบ
โรคเล็บอักเสบพบได้บ่อยในผู้ที่ทำงานมือเท้าเปียกน้ำอยู่เสมอ เช่น แม่ครัว คนขายปลา คนขายผลไม้ดอง ช่างเสริมสวย เป็นต้น
สาเหตุของโรคเล็บอักเสบ แบ่งเป็น
- เกิดจากการเจริญของเล็บมีความพิการมาแต่กำเนิด
- มีความเกี่ยวข้องกับโรคตามระบบต่างๆ เช่น วัณโรค กามโรค โรคของเส้นเลือด เป็นต้น
- เกิดจากภาวะอาหาร เช่น วิตามิน โปรตีนต่างๆ และต่อมไร้ท่อต่างๆ เช่น ต่อมไทรอยด์
- ความแปรผันของอารมณ์ ชอบกัดเล็บ แทะเล็บ
- เกิดจากการติดเชื้อ เช่น เชื้อรา ทำให้เล็บเป็นเชื้อรา หรือเชื้อแบคทีเรีย ทำให้เล็บเป็นหนอง
- เกิดจากการกระทบกระแทกต่อเล็บ เช่น ถูกประตูหน้าต่างกระแทก ถูกค้อนทุบแรงๆ
- การตกแต่งเล็บก็ทำให้เล็บอักเสบได้ เช่น การลอกเนื้อเยื่อจากโคนเล็บออก อาจเป็นช่องทางให้เชื้อโรคเข้าสู่รากของเล็บได้ หรือการแพ้ยาทาเล็บ
- มาจากสภาวะแวดล้อม เช่น มือเท้าเปียกชื้นอยู่ตลอด
การป้องกันโรคเล็บอักเสบ ทำได้โดย…
รักษามือเท้าให้สะอาดและแห้งเสมอ หลังเสร็จงานควรล้างมือและเล็บด้วยน้ำสะอาดและสบู่อ่อนไม่ควรใช้อุปกรณ์ของมีคมแคะซอกเล็บ เพราะจะมำให้ซอกเล็บลึกมากขึ้น ส่งผลให้เก็บสิ่งสกปรกต่างๆ ได้ดีขึ้น ทำให้โครงสร้างรอบเล็บเสีย และทำให้เล็บกลับคืนสู่สภาพเดิมได้ยาก