เมื่อสตรีเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน รังไข่จะหยุดทำงาน จึงทำให้ฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) ลดลง นอกจากจะทำให้เลือดประจำเดือนที่เคยเป็นทุกเดือนขาดหายไปแล้ว ยังส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและเกิดอาการหลายอย่างในสตรี หนึ่งในอาการสำคัญที่พบบ่อย คือ…
“ภาวะช่องคลอดแห้ง”
เป็นภาวะที่ช่องคลอดไม่มีเมือกมาหล่อลื่นตามปกติ ส่งผลให้รอยย่นของช่องคลอดจะลดลง เยื่อบุช่องคลอดจะเป็นสีแดงมากกว่าปกติที่เป็นสีชมพู เมื่อสัมผัสผิวเยื่อบุช่องคลอดในภาวะที่ช่องคลอดแห้ง เลือดจะออกได้ง่าย ผนังบุช่องคลอดที่แห้ง จะไม่สามารถปล่อยสารไกลโคเจน มาคอยดูแลช่องคลอดได้เหมือนเดิม เชื้อโรคแปลกปลอมจึงสามารถเข้ามาในบริเวณช่องคลอดได้ง่าย นอกจากนั้นยังทำให้เกิดอาการคันและมีกลิ่นได้ง่าย
การปรับสมดุลช่องคลอด เพื่อลดปัญหาช่องคลอดแห้ง
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบหมวดหมู่ในปริมาณที่เหมาะสม เน้นอาหารที่มีสารคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน เช่น ถั่วเหลือง ธัญพืช เมล็ดลินิน น้ำมะพร้าว รวมถึงอาหารที่กรดไขมันไลโนเลอิก ที่จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับช่องคลอด เช่น ดอกคำฝอย เมล็ดทานตะวัน เมล็ดงา ผักใบเขียว นอกจากนี้ยังมีอาหารที่มีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบของช่องคลอด ได้แก่ กระเทียม กะหล่ำปลี หัวหอมใหญ่ และผักกาด
- งดเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ รวมถึงการสูบบุหรี่
- ทำจิตใจให้ร่าเริงแจ่มใส ไม่เครียด โดยเรื่องเซ็กซ์ควรเปิดอกคุยกับสามีเพื่อความสุขในชีวิตคู่
- ตัวช่วยรักษาภาวะช่องคลอดแห้ง ที่มีสรรพคุณเพื่อปรับสภาพให้เชื้อแลคโตบาซีลัสที่มีอยู่ในช่องคลอดกลับมามีจำนวนปกติ รวมถึงช่วยรักษาอาการระคายเคืองของช่องคลอด อย่าง Gynoflor บอกเลยว่าที่ต่างประเทศการใช้ตัวช่วยเหล่านี้นั้นไม่ใช่เรื่องน่าอาย ใครที่มีปัญหาอยู่ นับว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือก
ทั้งนี้ยาที่ใชัรักษาภาวะช่องคลอดแห้ง ควรเน้นไปที่สรรพคุณเพื่อปรับสภาพให้เชื้อแลคโตบาซีลัสที่มีอยู่ในช่องคลอดกลับมามีจำนวนปกติ รวมถึงช่วยรักษาอาการระคายเคืองของช่องคลอดค่ะ
ที่สำคัญและจะลืมไม่ได้โดยเด็ดขาด ก่อนใช้ยาต่างๆ เพื่อรักษาภาวะช่องคลอดแห้ง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อความปลอดภัยนะคะ
