งานนี้ได้ข้อมูลดีๆ จากชีวจิตที่รวมเรื่องราวมจาก หนังสือ The Beauty Detox Foods สำนักพิมพ์ The New York Times เขียนโดย คุณคิมเบอร์ลี ซินเดอร์ นักโภชนาการอาหารแนะนำให้ปฏิบัติตามอย่างน้อยระยะละ 1 เดือน สดสวยเห็นว่าน่าจะลองทำตามได้ แบบนี้ค่ะ
“ลดน้ำหนัก ปลอดภัย ไม่โยโย่ 5-10 กิโลกรัม ใน 1 เดือน คลิกด่วน!!!” ข้อความโฆษณาชวน (เหลือ) เชื่อขนาดนี้ แถมยังมีภาพ before after มากระตุ้นกันอีก เหตุเพราะอีเวนท์งานแต่งเพื่อน งานบวชลูกเพื่อนแม่ หรือแม้แต่งานเลี้ยงรุ่นประจำปี ทำเอาอดรนทนไม่ไหวต้องต้องคลิกตามแบบไม่ขอยั้งใจแล้วกัน
เมื่อช่วงปีที่ผ่านมามีการแชร์จากอินเตอร์เน็ตเกี่ยวกับนายแพทย์ญี่ปุ่นท่านหนึ่งที่ใช้วิธีอดอาหารโดยการกินอาหารเพียงวันละมื้อเพื่อคงความอ่อนเยาว์ของร่างกายและทำให้สุขภาพแข็งแรง
ไม่รู้ว่าเพื่อนๆ เคยสงสัยเหมือนกับสดสวยบ้างมั้ยว่า ทำไมสาวหุ่นบางยังคงรักษาความผอมเพรียวไว้ได้คงเส้นคงวาไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปี
ฮอร์โมนในร่างกายของคุณจะกระตุ้นให้ควบคุมการเผาพลาญแคลอรี่ได้มากขึ้น เซลล์กล้ามเนื้อสามารถเผาพลาญแคลอรี่มากกว่าเซลล์อื่นๆ และการนอนหลับไปเพียงพอส่งผลเสียต่อการเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ ถ้ามีกล้ามเนื้อที่น้อยเกินไป การกินอาหารเข้าไปจะถูกแปลงเป็นไขมันมากขึ้น
แต่เอาจริงๆ นะต้องพูดเลยว่า พอได้เวลาลดน้ำหนักแล้ว สดสวยว่าทุกคนจะเป็นเหมือนกันหมดแหละ ถ้าไม่ได้กำลังใจดีๆ มีท้อกันบ้างระหว่างทาง ถ้าไม่จริงจังก็ล้มเหลวกันไปตามระเบียบ นอกจากจะทั้งเรื่องคุมอาหารแล้วก็ยังมีเรื่องของการออกกำลังกายเข้ามาอีกด้วยเหมือนกัน
เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมาก เมื่อมีการศึกษาจาก The Lancet วารสารการแพทย์ เวอร์ชั่นออนไลน์ ประเทศอังกฤษ ที่เปิดเผยเกี่ยวกับตัวเลขที่น่าตกใจที่ว่า มีผู้คนมากกว่า 19 ล้านคนทั่วโลกต้องประสบกับปัญหาโรคอ้วนที่ร้ายแรงไปยังจุดที่นักวิจัยสามารถประเมินได้เลยว่าปี 2025 จะเจอคนที่เป็นโรคอ้วนถึง 1 ใน 5 และแน่นอนว่านั่นคือ ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ปีนี้นั่นเอง การเก็บรวบรวมข้อมูลสำหรับการศึกษามานานกว่า 45 ปี ทำให้มันเป็นหนึ่งในการศึกษาขนาดใหญ่ที่สุด…
เมื่อถึงเวลาที่ต้อง “ลดน้ำหนัก” อย่างจริงจัง ถ้าให้ค้นข้อมูลหาสูตรลดความอ้วนคงเจอผลลัพธ์เป็นร้อยเป็นพันให้ได้ลองทำตามกัน แต่ในบทความนี้สดสวยไม่ได้จะชวนมาดูสูตรลดน้ำหนักอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่เป็นการรวมรวบทริคเล็กๆ น้อยๆ ที่เพื่อนๆ อาจมองข้ามไประหว่างการลดน้ำหนัก
มีอยู่ช่วงหนึ่งที่สดสวยไดเอทและมีอาการตามมาอย่างหนึ่งคือ “อาการนอนไม่หลับ” ไม่แน่ใจว่าเพื่อนๆ ที่กำลังอ่านบทความนี้เคยเป็นกันบ้างหรือไม่?
หรือที่ภาษาอังกฤษเขาเรียกกันว่า Cayenne Pepper นั่นเอง งานนี้ไม่ได้มโนไปเองอย่างแน่นอนค่ะ เพราะว่าเป็นผลงานการวิจัยล่าสุดที่ได้ตีพิมพ์ลงในวารสาร Physiology & Behavior