ในบทความนี้ เราจะกล่าวถึง

– อย่าละเลยสะเก็ดที่เกิดจากผิวบนหนังศีรษะ

– ใช้ผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื้น กับผิว

– ใช้แชมพูน้อยลง 

– หลีกเลี่ยงน้ำหอม 

– ใช้ดรายแชมพู

คุณมีวันที่ผิวและผมเสีย แห้งกร้านมากขึ้นในช่วงฤดูหนาวหรือเปล่า ถ้าใช่ด้วยสภาพอากาศที่หนาวเย็นและความร้อนภายในอาคารที่แห้ง เส้นใยไฟฟ้าสถิตย์และขาดน้ำจึงพบได้บ่อยในช่วงเวลานี้ของปี ซึ่งอาจนำไปสู่การแห้งแตกได้ สภาพอากาศในฤดูหนาวหมายถึงอากาศที่แห้ง (ชื้นน้อยลง) และอุณหภูมิที่เย็นลง ซึ่งทั้งสองอย่างนี้มีผลกระทบต่อผิวหนังและหนังศีรษะ ปัญหาหลักของผิวหนังและหนังศีรษะในฤดูหนาวคือความแห้งกร้านและลอกเป็นขุย บางคนอาจมีอาการ ‘คันในฤดูหนาว’ จากผิวแห้ง กลากยังสามารถลุกเป็นไฟในฤดูหนาวเนื่องจากความแห้งกร้าน” เราจะมาแบ่งปันเคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับวิธีการดูแลเส้นผมในฤดูหนาวเพื่อป้องกันไม่ให้เส้นผมแห้งเสีย

1. อย่าละเลยบนหนังศีรษะและผิวหนังที่เกิดเกล็ด 

เพราะด้วยอุณหภูมิที่เย็นกว่าทำให้เกิดความแห้ง คุณอาจเริ่มมีขุยที่ผิวทั้งตัวและหนังศีรษะแม้ว่าคุณจะไม่มีรังแคก็ตาม การเปลี่ยนมาใช้แชมพูปรับสมดุลหนังศีรษะสามารถช่วยลดสะเก็ดได้ ถ้าคุณเริ่มเห็นสะเก็ดหรืออาการคัน อาจเกิดจากความแห้งกร้านของสิ่งแวดล้อมหรือผิวหนังอักเสบ seborrheic อย่างหลังเป็นภาวะอักเสบเนื่องจากแพ้เชื้อ Malassezia (ยีสต์) ส่วนใหญ่แพทย์มักจะรักษาด้วยยาต้านยีสต์ เช่นแชมพูยา เพราะปัญหาผิวหนังอักเสบจาก seborrheic เป็นปัญหา  หากเป็นความแห้งกร้านของสิ่งแวดล้อมบนผิวหนังที่ร่างกาย เราแนะนำใช้มาสก์บำรุงผม บำรุงผิว หรือน้ำมันอาร์แกนออยล์สัปดาห์ละครั้ง

2. เปลี่ยนไปใช้แชมพูและครีมนวด รวมทั้งมอยส์เจอร์ผิวที่ให้ความชุ่มชื้น 

แชมพูของคุณสามารถทำความสะอาดเส้นผมได้ดีเกินไป แม้ว่าน้ำยาทำความสะอาดที่รุนแรง เช่น สารลดแรงตึงผิวในแชมพู หรือแม้แต่ในสบู่สำหรับผิว จะทำให้รู้สึกสะอาดสะอ้าน แต่ก็ทำให้ผมแห้งเสียและผิวหนังแห้งตึงมากขึ้นด้วย ผู้ที่มีผิวแห้งหรือหนังศีรษะแห้งเป็นขุยอาจต้องการหลีกเลี่ยงแชมพูและน้ำยาทำความสะอาดที่มีซัลเฟตเพราะจะทำให้หนังศีรษะและผิวหนังแห้งได้ ควรหลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่นเป็นเวลานานเพื่ออุ่นร่างกาย เพราะน้ำร้อนสามารถดึงเอาน้ำมันตามธรรมชาติออกจากผิวหนังได้

เราแนะนำให้เปลี่ยนไปใช้แชมพูที่ให้ความชุ่มชื้นอย่างอ่อนโยน ปราศจากซัลเฟต เช่นเดียวกับเครื่องปรับอากาศของคุณ ถ้าคุณรู้สึกว่าผมของคุณแห้ง คุณสามารถเปลี่ยนไปใช้ครีมนวดผมที่ให้ความชุ่มชื้นมากขึ้นได้ การใส่ครีมนวดทิ้งไว้สักสองสามนาทีก่อนจะล้างออกจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นได้ นอกจากนี้ บีบน้ำออกก่อนใช้ครีมนวด

แต่ถ้าเป็นผิวหนังตามร่างกายควรใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์สำหรับผิวหนังที่มีส่วนผสมปราศจากนํ้าหอม และเป็นผลิตภัณฑ์ที่มอบความชุ่มชื้นไว้อย่างลํ้าลึก อย่าง Hirusoft Body Lotion For Dry Skin 300 ml. ฮีรูซอฟท์ โลชั่นบำรุงผิว สำหรับผิวแห้ง ซึ่งมีส่วนประกอบสำคัญถึง 3 ประการคือ MPS, Allium cepa, Aqua 24 ช่วยบำรุงได้ลึกไปถึงเซลล์ผิว และด้วยความที่กักเก็บความชุ่มชื้น เพื่อช่วยให้อาการผิวแห้ง แดง คัน ระคายเคือง น้อยลง แต่ยังสามารถบำรุงลึกถึงเซลล์ผิว สร้างให้เกราะป้องกันผิวแข็งแรงรับลมหนาวและสำหรับผู้ที่ปัญหาผิวแห้งคันได้ง่าย 

3. สระผมให้น้อยลง ลดอุณหภูมิในการอาบนํ้าคู่กัน

นอกจากการใช้แชมพูและครีมนวดผมที่ให้ความชุ่มชื้นแล้ว การลดความถี่ในการสระผมจะช่วยให้เส้นผมของคุณกักเก็บความชุ่มชื้นและน้ำมันธรรมชาติที่จำเป็นไว้ได้ สำหรับผู้ที่มีหนังศีรษะแห้ง การสระผมให้น้อยลงอาจช่วยรักษาน้ำมันตามธรรมชาติของหนังศีรษะ  อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริง การสระผมให้น้อยลงไม่ใช่ทางเลือกเสมอไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีหนังศีรษะมัน  นั่นคือที่มาของผลิตภัณฑ์บำรุง นอกจากนี้การลดความแห้งของหนังศีรษะและผิวกายควรลดอุณหภูมิของห้องอาบน้ำลงสามารถช่วยได้ การอาบน้ำนานเกินไปอาจทำให้หนังศีรษะของคุณแห้งได้โดยการดึงน้ำมันที่ดีออกจากผิว การอาบน้ำอุ่นคือกุญแจสำคัญเมื่ออาบน้ำอุ่น

4. หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่มีส่วนผสมของน้ำหอม 

การระคายเคืองที่เกิดจากน้ำหอมสังเคราะห์ในผลิตภัณฑ์เสริมความงามเป็นเรื่องปกติมาก การศึกษาพบว่าสามารถกระตุ้นปฏิกิริยาใน 20% ของประชากรอเมริกัน เมื่อผิวแห้งจากสภาพแวดล้อมหรือคุณมีอาการอักเสบ เช่น กลาก ให้หลีกเลี่ยงสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองในผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมของคุณโดยเลือกใช้สูตรปราศจากน้ำหอม  หากสภาพอากาศในฤดูหนาวทำให้เกิดโรคเรื้อนกวางขึ้นที่ผิว ให้มองหาผลิตภัณฑ์ไม่ระคายเคืองนอกเหนือจากผลิตภัณฑ์บำรุงผิว แนะนำให้มองหาผลิตภัณฑ์ที่มีตรารับรอง 

5. ใช้ดรายแชมพูในปริมาณที่พอเหมาะ 

ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมของคุณอาจทำให้ผมแห้งเสียได้ จากขั้นตอนทั้งหมดในชีวิตประจำวันของคุณ ระวังการใช้ดรายแชมพู เพราะอาจทำให้ผมแห้งและระคายเคืองได้ และอาจถึงขั้นแตกหักได้หากใช้มากเกินไป ขอแนะนำไม่เกิน 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูหนาว รวมทั้งผลิตภัณฑ์ต่างๆที่มีนำ้หอมอีกด้วย