ไม่อยากหน้าพัง ต้องระวังก่อนเลือกใช้ “กรดผลไม้” ดูแลผิว

0

การใช้สารจากธรรมชาติในการดูแลสุขภาพร่างกายกำลังเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย รวมไปถึงการนำมาใช้เพื่อเพิ่มความงาม  มีการนำน้ำมะนาว หรือกรดผลไม้ มาใช้กับผิวเพื่อให้มีความกระจ่างใส ลดรอยด่างดำ การนำสารจากธรรมชาติมาใช้กับผิวหนังนั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย จึงต้องทราบถึงข้อควรระวังก่อนเลือกใช้ “กรดผลไม้”

กรดผลไม้ (Hydroxy acid) เป็นสารประกอบที่มีฤทธิ์เป็นกรดซึ่งได้จากการสกัดจากผลไม้ธรรมชาติ เช่น กรดซิตริก (citric acid) จากผลไม้พวกส้ม มะนาว ส้มโอ, กรดมัลลิก (malic acid) จากแอปเปิ้ล, กรดแล็กติก (lactic acid) จากนมเปรี้ยว, กรดทาร์ทาลิก (tartaric acid) จากมะขาม และไวน์, กรดไกลโคลิก (glycolic acid) จากน้ำตาลอ้อย เป็นต้น

กรดผลไม้สามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่

1. กลุ่ม Alpha hydroxy acid (AHA) หมายถึงสารประกอบที่มีฤทธิ์เป็นกรด เป็นสารที่สกัดจากผลไม้ธรรมชาติ ตัวอย่างสารกลุ่ม AHA เช่น glycolic acid, lactic acid, mandelic acid

2. กลุ่ม Beta hydroxy acid (BHA) เป็นสารที่สังเคราะห์ขึ้นมา มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ มีคุณสมบัติคล้ายกับ AHA แต่ทนต่อ ความร้อน ไม่เสื่อมง่ายเหมือน AHA ที่สกัดมาจากธรรมชาติ ตัวอย่างสารกลุ่ม BHA เช่น salicylic acid

3. กลุ่ม Poly hydroxy acid (PHA) เป็นสารเคมีที่มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน ๆ มีคุณสมบัติในการผลัดเซลล์ผิวคล้ายคลึงกับ AHA แต่มีความอ่อนโยนต่อผิวมากกว่า ตัวอย่างสารกลุ่ม PHA เช่น gluconolactone, lactobionic acid

กรดผลไม้ หรือสารสกัดจากผลไม้ หรือพืชที่มีความเป็นกรด สามารถนำมาใช้เพื่อทำให้เกิดการผลัดผิวเก่าที่อาจจะหลุดร่อนไม่พร้อมกันตามธรรมชาติเผยผิวด้านล่างที่มีความสดใสมากกว่า จึงทำให้สีผิวกระจ่าง ลดความหมองคล้ำได้ แต่อาจมีข้อจำกัดจึงต้องคำนึงถึงปัจจัยในการเลือกใช้ซึ่งมีอยู่หลายวิธีและควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับสภาพผิว

การใช้สารจากธรรมชาติอย่างกรดผลไม้ มาใช้กับผิวเพื่อให้มีความกระจ่างใส ลดรอยด่างดำ ควรอยู่ภายใต้ความดูแลของแพทย์ผิวหนังที่มีประสบการณ์ในการคัดเลือกผู้ป่วยตามสภาพผิวที่สามารถใช้ความเข้มข้นของกรดต่างๆ ตามปัญหาที่มี เพราะหากเกิดปัญหาระคายเคือง ผิวหนังอักเสบแล้วจะทำให้เกิดผลข้างเคียง กลายเป็นปัญหาใหม่มากยิ่งขึ้น

ข้อควรระวังก่อนเลือกใช้สารสกัดจากผลไม้ (กรดผลไม้) ในการดูแลผิว

1. ความเป็นกรดจะระคายเคืองผิวได้และก่อให้เกิดการอักเสบ

2. เราไม่สามารถทราบได้เลยว่ากรดผลไม้ที่เลือกใช้ เช่น น้ำมะนาวที่ใช้มีความเข้มข้นมากน้อยเพียงใด และความเข้มข้นที่เหมาะสมเท่าไหร่ที่จะสามารถผลัดผิวได้ และไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง

3. เมื่อเกิดการระคายเคืองที่ผิวจะเกิดการอักเสบตามมา และอาจจะทำให้เกิดรอยดำคล้ำตามหลังการอักเสบ ซึ่งพบได้บ่อยในผิวคนเอเชีย

4. การทาเพื่อผลัดผิวจำเป็นจะต้องมีหลักการทาที่ถูกต้องหลีกเลี่ยงบริเวณผิวอ่อนบางที่อาจจะเกิดการระคายเคืองจากกรดได้ง่าย และเพิ่มการทาในบริเวณที่หนาและต้องการผลัดผิวให้มากขึ้น หากปฏิบัติไม่ถูกอาจทำให้เกิดการระคายเคืองและอักเสบได้

5. ในกรดผลไม้บางชนิดจะมีสารบางอย่างที่เรียกว่า Psoralen ซึ่งหากโดนแสงแดดจะทำให้เกิดการอักเสบของผิวหนังที่ทิ้งรอยดำไว้ ที่เรียกว่า Phytophoto dermatitis ซึ่งรอยคล้ำชนิดนี้รักษาค่อนข้างยากและใช้เวลานานกว่าจะดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม ปัญหาความหมองคล้ำอาจไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการใช้กรดผลไม้เพียงอย่างเดียว หากเป็นมากขึ้นต้องให้แพทย์ผิวหนังตรวจวินิจฉัยและเลือกการรักษาที่เหมาะสม ซึ่งการรักษาอาจเป็นวิธีผสมผสานขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *