อากาศในบ้านเราตอนนี้แสนจะร้อนระอุ บางทีก็มีความชื้นด้วย อาจจะเจอกับความร้อนและรู้สึกเหนอะหนะผิว รวมทั้งผิวหน้าด้วย ยิ่งคนที่มีผิวมันแล้วหล่ะก็อาจจะเจอปัญหากวนใจอยู่เป็นประจำ ซึ่งผิวมันเกิดเพราะต่อมไขมันที่มาปกป้องและมอบความชุ่มชื้นในผิวหนังสร้างไขมันมากเกินไป
Sebum ถึงแม้จะมีความสำคัญต่อการรักษาปกป้องผิวให้แข็งแรง แต่ในขณะเดียวกันเมื่อผลิตความมันส่วนเกินออกมามากเกินความจำเป็นก็ทำให้ผิวในส่วนรูขุมขนอุดตันและเกิดสิวในที่สุด ดังนั้นต้องมีการดูแลและใส่ใจผิวอย่างดี แต่เราจะมีทริคดีๆ มาฝากว่าทำอย่างไรที่จะดูแลผิวด้วยตัวเองเบื้องต้นก่อนเพื่อลดความมันโดยไม่ต้องใช้ยาตามใบสั่งของแพทย์
อาการของคนผิวมันที่มักมีผลกระทบต่อผิวบนใบหน้าคือ มีความเงาจากนํ้ามันที่ผลิตออกมามาก, รูขุมขนบนใบหน้าเห็นได้ชัดเจน, ผิวดูหนา และหยาบกร้าน, สิวขึ้นบ่อยครั้ง, รูขุมขนอุดตัน และมีสิวหัวดำร่วมด้วย
ผู้ที่มีผิวมันอาจมีปัญหาในการแต่งหน้าให้เหมาะกับสภาพผิว เนื่องจากการแต่งหน้าเมื่อเจอกับความมันแล้วอาจจะทำให้มีปัญหาไม่ติดทนหรืออุดตัน โดยอาการของคนผิวมันจะมีความรุนแรงและแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล เพราะพันธุกรรมนั่นเอง หรือแม้แต่การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ระดับความเครียดก็ส่งผลกระทบต่อการผลิตไขมันในร่างกายเช่นกัน
แล้วจะดูแลรักษาผิวมันด้วยตนเองอย่างไร?
- ล้างหน้า แต่ด้วยสบู่และนํ้าอุ่น (ไม่มากจนเกินไป) เลี่ยงสบู่ที่มีส่วนผสมนํ้าหอมและมอยส์เจอร์ไรเซอร์ สารเคมีรุนแรงที่ทำให้ระคายผิว ไม่ใช้ที่ขัดหน้าแบบใยบวบหรือผ้าเช็ดตัวแบบหยาบ ลดแรงเสียดทานการกระตุ้นให้มีกรสร้างนํ้ามันบนผิวมากขึ้น
- ใช้โทนเนอร์ แต่ให้ใช้จากส่วนผสมธรรมชาติเพื่อให้รูขูมขนสะอาด กระชับ ไม่อุดตัน แต่เลี่ยงแบบมีแอลกอฮอล์เพราะอาจจะทำให้แห้งเกินไป
- ซับใบหน้าให้แห้งหลังจากล้างหน้าและใช้โทนเนอร์ด้วยผ้านุ่มแบบเบามือ
- กระดาษซับมันที่เรารู้จักกันดี ถ้ามีส่วนผสมแบบกรดซาลิไซลิคหรือไกลโคลิกจะยิ่งช่วยขจัดความมันส่วนเกินได้ดี
- มาส์กหน้า ความชุ่มชื้นช่วยได้ ไม่ว่าจะเป็นสูตรที่มีนํ้าแร่จากธรรมขาติ นํ้าผึ้ง หรือข้าวโอ๊ต
- มอยส์เจอร์ไรเซอร์สำคัญมาก ควรมอบความชุ่มชื้นให้ผิวอยู่เสมอ
