ก่อนคุณจะมีประจำเดือนเหมือนกับว่าหลายๆ คนอาจจะเคยเจออาการท้องอืด เป็นตะคริว และอารมณ์ไม่คงที่ เท่านั้นยังไม่พอคุณอาจจะเจอปัญหาสิวอยู่เป็นประจำอีกด้วย ในความเป็นจริงสิวจะมีอาการลุกลามมากขึ้นในช่วงที่มีประจำเดือน เป็นสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับการจัดการและการรักษาสิวที่เกี่ยวข้องกับการมีรอบเดือน และไม่ว่าคุณกำลังเผชิญกับสิวที่ลุกลามอย่างรวดเร็วหรือซีสต์ที่คางที่เจ็บปวด
ในกรณีของสิวประจำเดือน คุณควรรู้วิธีก่อนว่าการแยกความแตกต่างระหว่างการแตกตัวของฮอร์โมนจากสิวปกติ วิธีที่ง่ายที่สุดคือการดูที่เวลา สิวที่เกี่ยวข้องกับประจำเดือนของคุณมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่มีประจำเดือนหรือในช่วงที่มีประจำเดือน นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มที่จะชัดเจนขึ้นหรือดีขึ้นเมื่อช่วงประจำเดือนในแต่ละเดือนจบลง แต่ถ้ามีสิวอยู่แล้ว คุณอาจสังเกตเห็นว่าอาการแย่ลงในช่วงเวลานี้ หากคุณมักจะมีผิวที่กระจ่างใส คุณอาจสังเกตเห็นสิวหนึ่งหรือสองเม็ดผุดขึ้นมา
สิวมีหลายประเภท
การรู้ความแตกต่างระหว่างสิ่งเหล่านี้สามารถช่วยให้คุณจำกัดการรักษาสิวที่ดีที่สุดให้แคบลงและถูกต้องได้
1.สิวหัวดำ เมื่อรูขุมขนที่อุดตันยังคงเปิดอยู่ สิวจะขึ้นที่ผิวของคุณและมีลักษณะเป็นสีดำ
2.สิวหัวขาว สิ่งเหล่านี้อยู่ใต้ผิวของคุณ พวกมันก่อตัวขึ้นเมื่อรูขุมขนที่อุดตันปิดลง ทำให้ด้านบนปรากฏเป็นสีขาว
3. สิวอักเสบ จะมีเลือดคั้ง เป็นสิวเม็ดเล็ก ๆ ที่น่ารำคาญซึ่งมีลักษณะเป็นตุ่มสีชมพู มักจะเจ็บร่วมด้วย
4. ตุ่มหนอง สิวอักเสบชนิดอื่น ตุ่มหนอง ตุ่มนูนแดงที่ก้น ยอดเป็นสีขาวหรือเหลืองและเต็มไปด้วยหนอง
5. ก้อน สิ่งเหล่านี้จะอยู่ลึกลงไปใต้ผิวหนัง พวกเขามักจะมีขนาดใหญ่แข็งและเจ็บปวด
6. ซีสต์ ฝ้าชนิดนี้จะลึกและมีหนอง พวกเขาเจ็บปวดและอาจทำให้เกิดแผลเป็นได้
ทำไมสิวถึงเยอะขึ้นในช่วงเวลาก่อนและมีประจำเดือน นั่นเป็นเพราะฮอร์โมนของคุณมีความผันผวนตลอดรอบเดือนของคุณ ก่อนมีประจำเดือน ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนจะลดลง สิ่งนี้สามารถกระตุ้นให้ต่อมไขมันของคุณหลั่งซีบัมออกมามากขึ้น ซึ่งเป็นสารน้ำมันที่หล่อลื่นผิวของคุณมากเกินไปอาจทำให้รูขุมขนอุดตันและเกิดสิวได้ ฮอร์โมนยังสามารถเพิ่มการอักเสบของผิวหนังและการผลิตแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว ความผันผวนของฮอร์โมนก่อนมีประจำเดือนอาจส่งผลต่อด้านอื่นๆ ด้วย เช่น อารมณ์แปรปรวน เจ็บหน้าอก และอุจจาระแปลกไป (หรือที่เรียกว่า PMS) PMS ยังเกี่ยวข้องกับความเครียดที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจทำให้สิวแย่ลง และแตกต่างจากอาการ PMS อื่น ๆ
สิวที่เกี่ยวข้องกับการมีประจำเดือนไม่ได้หายไปเมื่อประจำเดือนของคุณเริ่มต้น คุณสามารถคาดเดาได้ว่ามันเกิดจากฮอร์โมนของคุณได้เช่นกัน เทสโทสเตอโรนเป็นฮอร์โมนเพศชายที่เราทุกคนมีในร่างกายโดยไม่เกี่ยวว่าเป็นหญิงหรือชาย แต่มันส่งผลต่อเราแตกต่างกันไปตามระดับของฮอร์โมนอื่นๆ เมื่อระดับฮอร์โมนของคุณผันผวนในช่วงใกล้หมดประจำเดือน เทสโทสเตอโรนยังสามารถกระตุ้นความไวของต่อมไขมัน ผลที่ตามมาคือความมันมากขึ้นและรูขุมขนอุดตัน
สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่เฉพาะเฉพาะบริเวณคางของคุณ อาจจะมีสิวขึ้นตามแนวสันกรามที่เป็นสิวและมีอาการเจ็บ หากคุณเป็นแบบนี้ไม่ใช่เรื่องผิดปกติที่สิวฮอร์โมน โดยเฉพาะซีสต์ จะเกิดขึ้นในบริเวณเหล่านี้ ภายนอกอาจดูเหมือนไม่มากนัก แต่ก็สร้างความเจ็บปวดได้เช่นกัน
เคล็ดลับในการดูแลสิวช่วงมีประจำเดือน อย่างไรก็ตามการรักษาความสะอาดของใบหน้าและผิวย่อมต้องมาเป็นอันดับแรกเสมอ อย่าพยายามทำให้ก้อนสิวที่คางแตก และอย่าแกะเกา เพราะมันจะนำไปสู่ความเจ็บปวดมากขึ้นและเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดแผลเป็น ดังนั้นการดูแลผิวให้สะอาดเป็นสิ่งสำคัญขั้นต้นจากนั้นควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดูแลสิวโดยเฉพาะ อย่าง Hiruscar Post Acne ฮีรูสการ์ โพสต์ แอคเน่ เป็นเนื้อเจลดูแลรอยสิว รอยดำ รอยแดง เพื่อช่วยลดรอยให้บริเวณแผลเป็นจางลงและเรียบเนียนดังเดิม ด้วยส่วนผสมของ MPS, Alllium Cepa, Pionin, Vit B3 และ Allantonin โดยให้ใช้เป็นประจำทุกวันอย่างต่อเนื่อง
