อาการผมร่วงคือสิ่งปกติที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยเฉลี่ยคนเราจะผมร่วงวันละ 50 – 100 เส้น แต่หากมากกว่านี้อาจจะเกิดความผิดปกติขึ้นกับสุขภาพของเส้นผม สุขภาพหนังศีรษะ หรือพฤติกรรมบางอย่างที่ส่งผลทำให้ผมร่วงมากขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะศีรษะล้านที่แม้ว่าอาจไม่ได้ส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพของคุณ แต่ผลทางจิตใจก็สำคัญเช่นกัน
อาการศีรษะล้าน หรือที่เรียกว่า androgenic alopecia นั้นพบได้บ่อยในผู้ชายที่มีอายุมากกว่า 50 ปี และผู้หญิงที่เข้าสู่วัยหมดประจำเดือนแล้ว
– ศีรษะล้านแบบชาย สำหรับศีรษะล้านแบบผู้ชาย สาเหตุเกิดจาก กรรมพันธุ์ มะเร็ง ภาวะต่อมไทรอยด์ ยา ความผิดปกติทางโภชนาการ รวมถึงฮอร์โมนเพศที่เรียกว่าแอนโดรเจนในระดับสูง
– ศีรษะล้านแบบผู้หญิง มีโอกาสน้อยที่ผู้หญิงจะหัวล้าน แต่ก็เป็นเรื่องปกติที่จะเกิดผมบาง แพทย์แบ่งศีรษะล้านแบบผู้หญิงออกเป็น 3 ประเภท คือ
ประเภทที่ 1 เริ่มบางเล็กน้อยในบางส่วนของผม
ประเภทที่ 2 ส่วนที่บางมีบริเวณกว้างขึ้นและบางขึ้นรอบๆ ศีรษะ
ประเภทที่ 3 มีลักษณะบางทั่วทั้งศีรษะ โดยมองเห็นทะลุด้านบนของหนังศีรษะ
ศีรษะล้านแบบผู้หญิงสามารถเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติ ซึ่งเกี่ยวข้องกับพันธุกรรม ผลข้างเคียงของยาหรือการรักษา หรือการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่เกิดจากการตั้งครรภ์หรือวัยหมดระดู ผู้หญิงมีโอกาสน้อยที่จะมีอาการผมบางในช่วงอายุ 20 ปี และอาจเริ่มมีอาการเมื่ออายุ 40, 50 และหลังจากนั้น
ตัวเลือกการรักษาผมบางโดยเน้นให้เส้นงอกใหม่ตามธรรมชาติเป็นเรื่องที่ท้าทาย หากอาการผมบางนั้นไม่รุนแรงถึงขั้นต้องปรึกษาแพทย์เพื่อปลูกผมใหม่ การรักษาด้วยตัวเองด้วยวิธีธรรมชาติหรืการบำรุงผมก็เป็นวิธีการที่ให้ผลดีทั้งในส่วนของการหยุดยั้งให้ผมร่วงน้อยลง และกระตุ้นให้เส้นผมใหม่งอกขึ้นได้
1. การนวดหนังศีรษะ
การนวดหนังศีรษะเป็นการกระตุ้นหนังศีรษะให้เลือดไหลเวียนได้ดี รวมถึงเซลล์และรูขุมขนได้ผ่อนคลาย ซึ่งช่วยในการเจริญเติบโตและความหนาของเส้นผม การเจริญเติบโตของเส้นผม และวงจรการหลุดร่วงและการงอกใหม่ การศึกษาในปี 2019 แสดงให้เห็นว่าการนวดหนังศีรษะช่วยเพิ่มการเจริญเติบโตของเส้นผม การไหลเวียนของเลือด และสุขภาพหนังศีรษะในผู้คน การใช้เวลาในการนวดหนังศีรษะทุกวันยังช่วยให้คุณคลายความเครียดและความตึงเครียดได้ ซึ่งเป็นโบนัสเพิ่มเติมหากอารมณ์เหล่านี้เป็นต้นเหตุของอาการผมร่วง
การนวดหนังศีรษะนั้น สามารถทำได้ด้วยตัวเอง ซึ่งสามารถนวดพร้อมน้ำมันหรือเซรั่มบำรุงผม โดยการนวดด้วยปลายนิ้วเคลื่อนไปทั่วหนังศีรษะเป็นวงกลมเล็กๆ ใช้แรงกดเบาๆ ถึงปานกลาง โดยใช้เวลาประมาณ 4 นาทีต่อครั้ง และควรนวดเป็นประจำทุกวัน โดยระยะเวลา 24 สัปดาห์ถึงจะเห็นผลที่เปลี่ยนแปลงได้ ข้อควรระวังคือควรนวดด้วยปลายนิ้ว ไม่ใช้เล็บ ซึ่งอาจทำให้หนังศีรษะเกิดบาดแผล และเป็นผลเสียมากกว่าผลดี
2. ว่านหางจระเข้
ว่านหางจระเข้ใช้รักษาผมร่วงมานานแล้ว นอกจากนี้ยังช่วยปลอบประโลมหนังศีรษะและบำรุงเส้นผม สามารถลดรังแคและคลายการอุดตันของรูขุมขนที่เกิดจากน้ำมันส่วนเกิน คุณสามารถใช้เจลว่านหางจระเข้บริสุทธิ์กับหนังศีรษะและเส้นผมได้ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ คุณยังสามารถใช้แชมพูและครีมนวดผมที่มีว่านหางจระเข้ได้อีกด้วย
3. น้ำมันมะพร้าว
น้ำมันมะพร้าวมีกรดไขมันที่เรียกว่ากรดลอริก ซึ่งซึมเข้าสู่แกนผมและช่วยลดการสูญเสียโปรตีนจากเส้นผม สามารถใช้น้ำมันมะพร้าวก่อนหรือหลังสระผมก็ได้ ขึ้นอยู่กับประเภทผมของคุณ ถ้าผมของคุณมีแนวโน้มที่จะมัน คุณสามารถทำทรีทเม้นท์ทิ้งไว้ข้ามคืนหรือ 2-3 ชั่วโมงก่อนที่จะสระ โดยนวดน้ำมันมะพร้าวลงบนหนังศีรษะและเส้นผมทั้งหมด แต่หากผมของคุณแห้ง คุณสามารถใช้เป็นทรีทเม้นท์แบบไม่ต้องล้างออกก็ได้ มีการวิจัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับน้ำมันมะพร้าวในฐานะตัวกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม การศึกษาชิ้นหนึ่งในปี 2021 แสดงให้เห็นว่าการใช้มะพร้าวกับหนังศีรษะช่วยเพิ่มไมโครไบโอมของหนังศีรษะ ทำให้หนังศีรษะและรูขุมขนมีสุขภาพดีขึ้น
4. ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดผมขาดหลุดร่วง
เราขอแนะนำอีกหนึ่งทางเลือกที่นอกจากสระ หมักผม หรือทรีทเมนต์ นั่นก็คือเอสเซนส์ ที่เหมาะสำหรับผมขาดหลุดร่วงได้ง่าย ทั้งชายและหญิง ยิ่งหากมีผลิตภัณฑ์สำหรับแต่ละเพศโดยเฉพาะก็จะช่วยแก้ปัญหาได้ตรงจุดมากขึ้น Hirudoid Anti-Hair Loss (ฮีรูดอยด์ แอนตี้ แฮร์ลอส) ซึ่งมาจากสารสกัดของธรรมชาติ ทั้งสารสกัดจากหัวหอม, มะนาวเลมอน, เมล็ดโกโก้, เมล็ดguarana ที่เรียกว่านวัตกรรม Cellium Formula ช่วยให้เส้นผมลดการขาดหลุดร่วง เพิ่มวอลลุ่มผม ซึ่งมีทั้งสูตร Hirudoid Anti Hair Loss Essence Men และ Hirudoid Anti Hair Loss Essence Women ซึ่งสามารถใช้นวดลงศีรษะเบาๆ ไม่ว่าจะเปียกหรือแห้ง ด้วยเนื้อสกัดที่ซึมซาบเข้าสู่หนังศีรษะได้ง่ายขึ้น