“เชื้อราที่เท้า” โรคทำร้ายผิวที่มากับน้ำ รู้ก่อนป้องกันได้

0

ปลายฝนต้นหนาว เป็นช่วงเวลาที่ต้องใส่ใจสุขภาพเป็นพิเศษ เพราะอาจเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยได้ง่าย เนื่องจากอากาศแปรปรวน อาจต้องเผชิญกับฝนตก อากาศร้อนชื้น รวมถึงลมหนาว สำหรับในหลายพื้นที่มีฝนตก อย่าลืมระมัดระวังและดูแลตนเองให้ปลอดภัยจากโรคภัยไข้เจ็บที่มากับน้ำ โดยเฉพาะโรคเชื้อราที่เท้า  

โรคเชื้อราที่เท้า หรือที่คนทั่วไปมักเรียกว่า ฮ่องกงฟุต หรือโรคน้ำกัดเท้า โรคนี้เกิดจากผิวหนังโดยเฉพาะส่วนของเท้า แช่น้ำเป็นเวลานาน ทำให้ผิวหนังอับชื้น เริ่มแรกผิวหนังชั้นบนสุดจะขึ้นเป็นขุยขาวๆ และยุ่ย ต่อมาจะลอกเป็นแผ่นหรือสะเก็ดแล้วแตกเป็นร่องและมีกลิ่น ซึ่งเกิดจากเชื้อราที่สะสมในชั้นของผิวหนัง ถ้าแกะลอกขุยขาวๆ ที่เปียกยุ่ยออก จะเห็นผิวหนังข้างใต้มีลักษณะแดงๆ และมีน้ำเหลืองซึม มักมีอาการคันยิบๆ ร่วมด้วย อาจลามไปที่ฝ่าเท้า หรือเล็บเท้า ทำให้ฝ่าเท้าลอกเป็นขุย หรือเป็นตุ่มพองใหญ่และคันมาก มักจะเห็นได้บริเวณซอกนิ้วเท้า ถ้ามีอาการอักเสบเป็นหนองด้วย แสดงว่าอาจติดเชื้อแบคทีเรียจากการแกะ เกาผิวหนังบริเวณนั้น 

เชื้อราที่เท้ามีสาเหตุมาจากเชื้อราบนผิวหนังที่เพิ่มจำนวนขึ้นมากจนทำให้เกิดการติดเชื้อ เชื้อราเหล่านี้เจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่อับชื้นและแพร่กระจายผ่านการสัมผัสผิวหนังบริเวณที่ติดเชื้อโดยตรงหรือสัมผัสกับสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อ ดังนั้น นอกจากน้ำท่วมจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องแช่เท้าอยู่ในน้ำนานๆ จนเกิดเชื้อราที่เท้าแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดเชื้อราที่เท้า อาทิ การสวมใส่รองเท้าและถุงเท้าที่อับชื้น, การเดินเท้าเปล่าในบริเวณที่มีความอับชื้นและไม่สะอาด (เช่น ห้องอาบน้ำสาธารณะ), มีปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อรา (เช่น โรคเบาหวาน)

ข้อแนะนำในการป้องกันความเสี่ยงจากโรคเชื้อราที่เท้า 

1. รักษาผิวหนังโดยเฉพาะที่มือ เท้า ให้แห้งสะอาดอยู่เสมอ รวมถึงใส่ถุงเท้าที่ซักสะอาดและเปลี่ยนคู่ใหม่ทุกวัน   

2. หลีกเลี่ยงการแช่น้ำที่ท่วมขัง หรือหากเลี่ยงไม่ได้ ควรล้างทำความสะอาดผิวหนังและเช็ดให้แห้งทันที อาจใช้แป้งเด็กโรยบางๆ ที่เท้า หรือใช้สารส้มถูผิวหนังบริเวณที่ต้องถูกน้ำบ่อยๆ จะช่วยให้ผิวหนังบริเวณนั้นเปื่อยน้อยลง 

3. หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดเชื้อราที่เท้า เช่น การสวมใส่รองเท้าที่ปิดมิดชิดหรือรัดแน่นเกินไป, การสวมใส่รองเท้าคู่เดิมติดกันหลายวัน, การใช้ผ้าเช็ดตัว ถุงเท้า หรือรองเท้าร่วมกับผู้อื่น, การเดินเท้าเปล่าในห้องอาบน้ำสาธารณะ

4. ทำความสะอาดห้องน้ำภายในบ้านอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของเชื้อรา

วิธีดูแลรักษาโรคเชื้อราที่เท้า 

1. ให้ใช้ยารักษากลากเกลื้อนทาบางๆ ในบริเวณที่เป็นและบริเวณรอบๆ แผล โดยล้างผิวหนังบริเวณที่มีอาการให้สะอาดก่อนทายา รวมถึงล้างมือให้สะอาดทั้งก่อนและหลังทายา

2. ควรทายารักษาต่อเนื่องนาน 3-4 สัปดาห์ หรือใช้ยาอย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำบนเอกสารกำกับยา แม้อาการคันหรือผื่นแดงจะหายดีแล้ว เพื่อให้แน่ใจว่าเชื้อราถูกกำจัดจนหมด

3. ถ้ามีน้ำเหลืองเยิ้ม ต้องใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำด่างทับทิมหรือน้ำเกลืออ่อนๆ โปะจนผ้าหมาดหรือใกล้จะแห้ง ปฏิบัติเช่นนี้บ่อยๆ จนกว่าผื่นคันจะแห้ง จึงใช้ยารักษากลากเกลื้อนได้ 

หากผู้ป่วยไม่รักษาความสะอาด เชื้อราอาจแพร่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย เช่น มือ เล็บเท้า ขาหนีบ ดังนั้นเพื่อป้องกันโรคเชื้อราที่เท้า ควรดูแลรักษาความสะอาดของมือและเท้าให้สะอาดและแห้งอยู่เสมอ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *