บ่อยครั้งที่เราเผลอขยี้ดวงตาแรงๆ เพื่อหวังจะบรรเทาอาการคันบริเวณตา แต่หารู้ไม่ว่าพฤติกรรมแบบนั้นเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวรอบดวงตาเกิดริ้วรอยได้ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายพฤติกรรมที่คุณทำรุนแรงเกินไป แต่กลับคิดว่านั่นถูกต้องแล้ว!!
ผิวรอบดวงตาบอบบางยิ่งกว่าจุดไหน ไม่มีทั้งต่อมไขมันและยังเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอยมากมายนับไม่ถ้วน เมื่อโดนเสียดสีบ่อยๆ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดริ้วรอยรอบดวงตาได้ ลองมาสำรวจกันดูสิว่าคุณทำกับผิวบริเวณรอบดวงตาเกินไปไหม?
ขยี้ตารุนแรงเมื่อคัน : การล้วงแคะแกะเกาที่รอบดวงตาล้วนแต่ไม่เป็นผลดี แถมบางคนออกแรงซะยิ่งกว่าการเกาที่ผิวกายปกติเสียด้วยซ้ำ การกระทำแบบนี้จะทำให้เส้นเลือดฝอยแตกจนกลายเป็นทำให้ใต้ตาดำคล้ำไม่มีสาเหตุ และลองสังเกตุดูดีๆ ว่าริ้วรอยคุณจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นในไม่ช้า
แต่งตาอย่างรุนแรง : โบกๆ โบะๆ ไปรู้ไหมว่าใต้ตาระคายเคืองไม่น้อย สาวๆ หลายคนแต่งตาแบบใช้แรงเยอะด้วยความสะใจ ไม่ระวังผิวรอบดวงตาเลย ไม่ว่าจะเขียนอายไลเนอร์หรือเกลี่ยใต้ตาด้วยคอนซีลเลอร์ ทั้งหมดนี้ควรใช้น้ำหนักที่เบามือทั้งนั้น เพราะยิ่งทำทุกวันไปนานๆ ริ้วรอยถามหาไม่รู้ด้วยนะ
ล้างเมคอัพแรงเกินไป : แต่งหน้าแบบจัดเต็มก็เลยต้องล้างรอบดวงตาหนักหน่อย แต่รู้ไหมว่าวิธีง่ายแสนง่ายและไม่ทำร้ายผิวรอบดวงตามีอยู่มากมาย เช่น นำสำลีชุบเมคอัพรีมูฟเวอร์แล้วแปะที่ใต้ตาไว้ (ถ้าใส่คอนแทคเลนส์ให้ถอดออกก่อน แปะเอาไว้ประมาณ 3 นาที แล้วค่อยๆ รูดออกคราบเครื่องสำอางต่างๆ ของคุณก็จะหลุดออกมาด้วยแล้ว แต่นั่นหมายความว่าเมคอัพรีมูฟเวอร์ของคุณต้องเริ่ดจริงๆ ด้วยนะ
นวดออยล์แบบรุนแรง : อีกหนึ่งวิธีสำหรับการล้างเครื่องสำอางนั่นคือใช้ออยล์ล้างตา จริงๆ แล้วเราต้องค่อยๆ นวดรอบดวงตาเบาๆ แต่ส่วนใหญ่หลายคนลงน้ำหนักมากเกินไปและด้วยความที่ออยล์เป็นเนื้อลื่นอยู่ แล้วก็ยิ่งมันมือเข้าไปอีก พฤติกรรมแบบนี้จึงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้รอบดวงตาระคายเคืองได้
บำรุงแบบเต็มสูบ : ก็คิดว่าบำรุงแล้วใช่ไหมล่ะ แต่การบำรุงนี่ล่ะที่ทำให้ผิวรอบดวงตาระคายเคืองได้ เพราะบางคนทั้งกดทั้งถูเหมือนหวังจะให้ดวงตาใสปิ้งไร้ริ้วรอยเดี๋ยวนั้น แต่หารู้ไม่ว่าการกระทำแบบนั้นยิ่งเหมือนเป็นการทำร้ายผิวรอบดวงตาเพิ่ม แน่นำให้ใช้นิ้วนางบำรุงผิวเพราะเป็นน้ำหนักที่เบามือที่สุดแล้วในบรรดา 5 นิ้วค่ะ