กว่าสิวจะยุบก็ใช้เวลานานแล้ว มาเจอปัญหาใหม่อย่างหลุมสิวคราวนี้ยิ่งเหนื่อยใจเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว เพราะหลุมสิวนอกจากจะทำให้หน้าสวยๆ หล่อๆ กลายเป็นรอย แต่งหน้ายากแล้ว ยังหายยากอีกด้วย ไม่อยากเครียดกับปัญหาหลุมสิวสดสวยรวบรวม 4 วิธีรักษาหลุมสิวมาฝากค่ะ
หลุมสิวเป็นอีกหนึ่งปัญหาผิวที่รักษายากมากๆ เรียกว่าถ้าจะรักษาให้ได้ผลระยะยาว แบบไม่ทำร้ายผิว หรือเกิดผลข้างเคียงน้อยที่สุด อาจต้องใช้เวลามากกว่า 6 เดือนขึ้นไป ขึ้นอยู่กับความลึก และชนิดของหลุมสิว เพราะต้องให้คอลลาเจนสร้างเซลล์ขึ้นมาทดแทน เลยต้องมีการกระตุ้น เพื่อเรียกคอลลาเจนกลับขึ้นมา ต่อไปนี้คือวิธีรักษาหลุมสิวอย่างได้ผล
1.การทาครีมร่วมกับการกินวิตามิน
ทาครีมทาหลุมสิวกลุ่มอนุพันธ์วิตามินเอหรือครีมทากลุ่มกรดผลไม้อย่างอ่อน AHA, BHA เพื่อช่วยเรื่องการผลัดผิวควบคู่กับการกินวิตามิน เช่น วิตามินซี B5 และ Zinc แต่วิธีนี้มีผลเสียคือปากแห้ง ผิวแห้ง และถ้าใช้ต่อเนื่องนานก็จะส่งผลต่อตับ รวมถึงอาจทำให้ผิวบาง แสบ ระคายเคืองง่าย ไปจนถึงผิวติดสเตียรอยด์ได้
2.การทำเลเซอร์
เป็นวิธีที่เห็นผลค่อนข้างไวแต่ค่อนข้างแพง การรักษาวิธีนี้ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้าน โดยเลเซอร์มีอยู่หลายชนิด เช่น Cool touch laser, Laser Fraxel, Laser fractional CO2 อย่างไรก็ตาม ผิวบางคนอาจต้องใช้เวลาพักฟื้นผิวซักระยะนึง และอาจมีผลข้างเคียง เช่น แพ้ง่าย ผิวบาง ไวต่อแดด หรือเกิดรอยดำได้
3.การรักษาหลุมสิวด้วยคลื่นวิทยุ
เป็นการรักษาหลุมสิวโดยการส่งคลื่นวิทยุลงไปที่ชั้นผิวหนังแท้ทำให้เกิดการทำลายผิวหนังบริเวณนั้น และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน การรักษาจะมีประสิทธิภาพเมื่อทำ 3-4 ครั้ง และควรทำเดือนละ 1 ครั้งเท่านั้น
4.การทาครีมรักษาหลุมสิว
ใช้ Hiruscar Post Acne เป็นประจำอย่างต่อเนื่องวันละ 2-3 ครั้งติดต่อกันประมาณ 4-8 สัปดาห์ เพื่อบำรุงผิวที่มีปัญหารอยสิว ช่วยให้รอยด่างดำ รอยอักเสบดูจางลง ช่วยให้รอยหลุมสิวแลดูตื้นขึ้น เพื่อป้องกันการเกิดร่องรอยดำจากสิว ควรเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ หลังจากสิวหายแล้วและยุบตัว ดูรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยค่ะ REVIEW: #ใช้ดีบอกต่อ ลดรอยสิวใน 7 วันกับ Hiruscar Postacne (ฮีรูสการ์ โพสต์ แอคเน่)
ทั้งนี้ ระหว่างรักษาหลุมสิวควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับฝุ่นละออง ควันต่างๆ เพราะจะมีแบคทีเรีย สิ่งสกปรกมาอุดตันที่รูขุมขน ทำให้เกิดสิวอักเสบเพิ่มขึ้น รวมถึงไม่แคะ แกะ เกา ลูบหน้า เช็ดหน้าแรงๆ ด้วยนะคะ