ใครว่าเรื่องสิวเป็นเรื่องธรรมชาติ สดสวยขอเถียงเลยค่ะ เพราะเวลาที่ผู้หญิงเป็นสิวเพียงแค่เม็ดเดียวก็เกิดความกังวลและขาดความมั่นใจขึ้นมาแล้ว นี่ถ้าสิวเห่อทั้งหน้ามีหวังชีวิตพัง หลบลี้หนีหน้าผู้คนกลายเป็นโรคซึมเศร้าแน่นอน แถมพอสิวหายไปปัญหาก็ไม่ได้จบเพียงเท่านี้ ยังมีปัญหารอยสิวที่ทิ้งไว้ให้ปวดตับอีกต่างหาก แบบนี้ต้องกำราบให้อยู่หมัด อย่าปล่อยให้สิวคุกคามชีวิตเราได้เด็ดขาด ปาดน้ำตาแล้วเดินหน้าสู้ด้วยวิธีรักษาสิวและรอยดำใน 21 วัน ด้วยแพทย์แผนจีนดีกว่าค่ะ
แพทย์จีนธนภัทร จินตกุล หัวหน้าสถานพยาบาล และอาจารย์ประจำวิทยาลัยการแพทย์ทางเลือก มหาวิทยาลัยราภัฏจันทรเกษม ได้กล่าวไว้ว่า…
“สิว ในทางการแพทย์แผนจีนนั้นไม่ใช่โรค เป็นเพียงกลไกการเตือน ถึงความไม่สมดุลของร่างกายเท่านั้น ซึ่งจัดเป็นกลุ่มโรคภายนอก (Waike) ประเภทกลุ่มโรคผิวหนัง (Pifuke) เกิดจากปอดและกระเพาะอาหารมีความร้อนมากเกินไป (Over Heat) จนส่งผลให้มีความร้อนชื้นสะสม เสมหะอุดกั้น จึงเกิดสิวบนใบหน้า”
สาเหตุการเกิดสิว
ปอดร้อน
สิวหัวสีขาวเเละดำเกิดจากความร้อนสะสมอยู่ในปอดจำนวนมากเกินไป สิวแบบนี้มีลักษณะเป็นตุ่มเล็กเเข็ง แต่ไม่เป็นหนอง เเละมีอาการคันเล็กน้อย มักเกิดบริเวณหน้าผากและรอบจมูก นอกจากนี้ยังมีอาการปากแห้ง จมูกแห้ง และอาการท้องผูกด้วย
กระเพาะอาหารร้อน
สาวๆ คนไหนชอบอาหารรสจัด เผ็ด หวาน อาหารมัน และอาหารทอด ระวังไว้เลยนะคะเพราะมันส่งผลให้เกิดการสะสมของความร้อนในระบบย่อยอาหาร ซึ่งจะทำให้เกิดสิวหัวขาวและดำ และเจ้าสิวชนิดนี้มักผุดขึ้นบริเวณรอบปาก หน้าอก เเละหลัง และอาจจะพบอาการอยากอาหารโดยเฉพาะน้ำเย็น กระหายน้ำ มีกลิ่นปาก เเละมีอาการท้องผูกอีกด้วย
เลือดร้อน
ไม่ได้หมายถึงคนใจร้อนนะคะคุณสาวๆ แต่เลือดร้อนเกิดจากภาวะผิดปกติของพลังลมปราณ (Qi) ทำให้เกิดสิวหัวขาวเเละดำ บริเวณรอบจมูก ปาก เเละระหว่างคิ้ว และยังพบอาการท้องผูก ปัสสาวะสีเหลือง เเละปลายลิ้นมีสีเเดงร่วมด้วยอีกต่างหากค่ะ
ปอดและกระเพาะอาหารร้อน
มาแบบสองเด้งเลยทีนี้ เป็นเพราะได้รับความร้อนจากท็อกซิน (Toxin) หรือพิษ ทำให้ร่างกายขาดความสมดุล จนเกิดสิวอักเสบและเป็นหนอง สังเกตง่ายๆ ว่าฐานรอบเม็ดสิวมีลักษณะเเดง มักมีอาการเจ็บปวดร่วมด้วย และแน่นอนว่าอาการท้องผูกก็มาอีกแล้วค่ะท่านผู้ชม แถมยังปัสสาวะสีเหลืองด้วย
ภาวะเลือดเป็นพิษ
ฟังดูน่ากลัว ซึ่งก็น่ากลัวจริงๆ ค่ะ มันเกิดจากร่างกายได้รับท็อกซินจากภายนอก ซึ่งเข้ามาทำลายความร้อนในร่างกายมากเกินไป ส่งผลให้พลังลมปราณ (Qi) ติดขัด ไหลเวียนได้ไม่ดี ทำให้สิวมีหัวลึก มีสีเเดงชัดเจน เกิดการอักเสบ เเละเจ็บปวด พบทั้งบริเวณใบหน้า หน้าอก เเละหลัง เมื่อสิวหายจะมีรอยแผลเป็นจาหลุมสิวชัดเจนเลยล่ะค่ะ
อ่านดูแล้วก็รู้สึกว่าต้องรักษาสุขภาพให้ดีถึงจะไม่มีปัญหาสิวใช่ไหมล่ะคะ ซึ่งคุณหมอก็แนะนำว่า เราควรต้องทำ 3 สิ่งนี้ 1. การปรับวิถีชีวิต 2. การปรับเปลี่ยนอาหารให้เหมาะสม 3. การรักษาด้วยแพทย์แผนจีน มาเริ่มกันเลยค่ะ
สัปดาห์ที่ 1
- นอนให้เพียงพอ กินอาหารมีประโยชน์ แล้วรักษาเพิ่มด้วยการฝังเข็ม
สัปดาห์ที่ 2
- ออกกำลังเป็นประจำ ดื่มชาสมุนไพร และเมื่อสิวหายไปจากสัปดาห์แรกก็ต้องทำกัวซาแบบวันเว้นวัน เพื่อทำให้รอยสิวหายไปและทำให้รูขุมขนเล็กลง
สัปดาห์ที่ 3
- ฝึกสมาธิอย่างน้อยวันละ 15 นาที ดื่มเครื่องดื่มสุขภาพ ถ้าเป็นพวกชาไม่ควรดื่มเย็น ในสัปดาห์นี้แพทย์จะเริ่มจัดยาให้เรากินเพื่อฟื้นฟูผิวแล้วค่ะ
แค่ 3 สัปดาห์ หรือ 21 วัน ก็ทำให้คุณกลับมามีผิวที่สวยสดใสได้ แต่ถึงอย่างไรไม่ควรทำเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเด็ดขาดนะคะ ใครมีปัญหานี้อยู่รีบไปขอคำปรึกษาจากแพทย์แผนจีนด่วนเลยค่ะ