โรคงูสวัด (Herpes zoster) คืออะไร หรืองูสวัดเป็นการติดเชื้อไวรัสทั่วไปที่เส้นประสาท ซึ่งส่งผลให้เกิดผื่นที่เจ็บปวดจากตุ่มเล็กๆ บนแถบผิวหนังบริเวณใดก็ได้ในร่างกาย แม้ว่าผื่นจะหายไปแล้ว ความเจ็บปวดก็อาจดำเนินต่อไปอีกหลายเดือน แล้วโรคงูสวัดมีความเกี่ยวข้องอะไรบ้าง

• โรคงูสวัดค่อนข้างหายากในเด็ก
• ในเด็กจะมีความเสี่ยงมากที่สุดหากเป็นโรคอีสุกอีใสในช่วงปีแรกของชีวิตหรือหากคุณเป็นโรคอีสุกอีใสในช่วงตั้งครรภ์
• ผื่นมักเกิดขึ้นที่ลำตัวและก้น และมักจะหายไปในหนึ่งถึงสองสัปดาห์
• ยาอาจช่วยบรรเทาความเจ็บปวดได้บ้าง แต่โรคอาจจะยังมีอยู่

         อะไรเป็นสาเหตุของโรคงูสวัด? 
         งูสวัดเกิดจากการเป็นโรคที่มาจากไวรัสอีสุกอีใส หลังจากที่คนๆ หนึ่งเป็นโรคอีสุกอีใส ไวรัสจะยังอยู่ในเส้นประสาทบางจุดเป็นเวลาหลายปี หรือแม้แต่อายุมากขึ้น การพักผ่อนไม่เพียงพอทำให้ถูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอลง ความเครียด เป็นต้น

         งูสวัดเป็นเรื่องปกติหรือไม่? 

         โรคงูสวัดพบได้บ่อยในผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันโรคอ่อนแอและผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปี ซึ่งโรคงูสวัดพบได้น้อยมากในเด็ก และอาการไม่รุนแรงเมื่อเทียบกับอาการที่ผู้ใหญ่

         โรคเริมงูสวัดมีอาการอย่างไร? 

จะมีลักษณะเปนผื่นที่เกี่ยวข้องกับงูสวัดมักเกิดขึ้น บริเวรณลำตัวและก้น นอกจากนี้ยังอาจปรากฏขึ้นที่แขน ขา หรือใบหน้า แม้ว่าอาการอาจแตกต่างกันไปในเด็ก แต่อาการที่พบบ่อยที่สุด ได้แก่:

•  ภาวะภูมิไวเกินของผิวหนังในบริเวณที่เป็นงูสวัด (งูสวัด) ปรากฏขึ้น
• ผื่นเล็กน้อยซึ่งปรากฏขึ้นหลังจากผ่านไปห้าวันและดูเหมือนจุดแดงเล็ก ๆ ที่กลายเป็นแผลพุพอง
• แผลพุพองที่เปลี่ยนเป็นสีเหลืองและแห้ง มักทิ้งรอยแผลเป็นเล็ก ๆ ไว้
• ผื่นจะหายไปในหนึ่งถึงสองสัปดาห์ (ซึ่งมักจะทิ้งรอยไว้บนส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย)

ถ้ารู้ว่าอาการปวดหัว เป็นไข้ ผื่นแดงเจ็บตัวอย่างมากให้รีบพบแพทย์โดยด่วนเลยค่ะ

         เราจะรักษาโรคและดูแลผิวหลังจากเป็นงูสวัดได้อย่างไร? 

         ยาอาจช่วยบรรเทาความเจ็บปวดได้บ้าง แต่โรคก็ยังมีอยู่ แพทย์จะสั่งจ่ายยาตามอายุและความรุนแรงของอาการ การรักษาด้วยยาต้านไวรัสทันทีอาจช่วยลดอาการบางอย่างและลดความเสียหายของเส้นประสาทได้ ส่วนใหญ่ยาที่แพทย์ให้จะเป็นยาตามอาการ รวมถึงยาแก้คันอย่างคาลาไมด์  หรือครีมแก้ปวดเมื่อย ยาชาแบบครีมหรือเจล หรือยาต้านไวรัสเข้าเส้นเลือด   เริ่มแรกเราจะพบผื่นแดงกระจุกกันเป็นกลุุ่มๆ แล้วกลายเป็นตุ่มนำ้ใสตามเส้นประสาทสักไม่เกิน 1 สัปดาห์ และแผลจะเริ่มแห้งเป็นสะเก็ด  โดยเฉพาะหากใครได้รับผลกระทบจากแผลเป็นของงูสวัด การดูแลผิวทั้งก่อนและหลังเป็นคือไม่ควรเกาผิวอย่างแรงจะทำให้เกิดแผลขึ้นได้ และอาจจะติดเชื้อแบคทีเรียจากเล็บมือที่ไปสัมผัสกับสิ่งของสกปรกมา ดังนั้นควรล้างมือและเตรียมผิวให้สะอาดก่อนทาครีม ไม่แกะตุ่มที่เกิดจากงูสวัด และแผลจะเริ่มแห้งโดยใช้เวลาไม่เกิน 3 สัปดาห์โดยประมาณ ให้เราค่อยๆ ดูแลแผลเป็นด้วยครีมลดรอยแผลเป็นที่ไม่ระคาเคืองและอ่อนโยนต่อผิวค่ะ

ส่วนเคล็ดลับวิธีป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดโรคงูสวัดคือวัคซีนอีสุกอีใสนั่นเองค่ะ