“โอมจงเงยขึ้นมา เงยขึ้นมา เงยขึ้นมา เออเออเอิง เงยขึ้นมามองตาฉันสักหน่อย โอว เพราะฉันเฝ้าคอย กลัวหลุดลอย พารานอย นอย นอย นอย น้อย นอย นอย นอย รักจะเกิดขึ้นมันต้องมองตา ไม่ใช่มองจอ”
เฮียว่าหลายคนคงเคยได้ยินเพลงนี้กันแน่ๆ เพราะว่ามันเป็นเพลงของพี่แสตมป์ที่เสียดสีสังคมก้มหน้าได้แบบครีเอทสุดๆ เลยทีเดียว แต่ถึงจะพยายามประชดประชันเท่าไหร่ก็กลายเป็นแค่เสียงเตือนเบาๆ เท่านั้น เดี๋ยวๆ … นี่เฮียดราม่าทำไม ไม่ใช่อะไรหรอก คือเฮียจะมาเล่าเรื่องผลแย่ที่มาแน่จากเจ้าสมาร์ทโฟนที่เราใช้ๆ กันนี่แหละ
พร้อมยัง? พร้อมแล้วเริ่มเลยนะ!
ใช้สมาร์ทโฟนหรือจ้งหน้าจอนานเกินไป
การใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีแสงจ้าจากหน้าจออย่างคอมพิวเตอร์ สมาร์ตโฟน และทีวี ส่งผลกระทบต่อดวงตาโดยตรง หากเราเพ่งมากเกินไปจะส่งผลให้ดวงตาเกิดความผิดปกติต่าง ๆ ได้ง่าย เช่น สายตาสั้น สายตาเอียง ตาพร่ามัว ปวดกระบอกตา ฯลฯ ดังนั้น ควรพักสายตาทุก ๆ 15-20 นาที ปรับความสว่างหน้าจอให้เหมาะสม ไม่จ้าจนเกินไป อาจจะเลือกใช้ฟิล์มกรองแสงที่หน้าจอเพื่อลดแสงที่สะท้อนสู่ดวงตาและควรเว้นระยะห่างของหน้าจอและสายตาให้เหมาะสมราว ๆ 20-30 ซม. โดยประมาณ
พึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไปทำให้สูญเสียความจำ
ทุกวันนี้เรานิยามคำว่าเทคโนโลยีเปรียบเสมือนอวัยวะชิ้นที่ 33 ทุกสิ่งอย่างของเราถูกเก็บไว้ในเมโมรี่ของสมาร์ตโฟนคู่ใจ หรือบางครั้งกำลังจะพูดอะไรสักอย่างแต่พอหยิบมือถือขึ้นมาเล่นแล้วก็ลืมสิ่งที่จะพูดไปดื้อ ๆ พฤติกรรมเหล่านี้อาจเป็นสาเหตุให้เกิดการสูญเสียความทรงจำที่เสียหายจากการที่คุณติดเทคโนโลยีเกินไป วิธีง่าย ๆก็คือ เพียงอ่านและเขียนให้มากขึ้นก็จะช่วยให้ระบบความจำของคุณค่อย ๆ ดีขึ้น
เปิดเพลงดังเกินไป
คนเราพอได้ฟังเพลงก็มักจะอินไปกับเสียงดนตรีจนเผลอเปิดเสียงดัง ทำให้คนรอบข้างรู้หมดว่าเรากำลังฟังเพลงอะไร นอกจากจะรบกวนผู้อื่นให้เสียสมาธิ รบกวนการพักผ่อนระหว่างการเดินทาง และแน่นอนว่าเจ้านายคุณไม่สบอารมณ์ซักเท่าไหร่ ถ้าต้องเรียกหาคุณหลายรอบแต่คุณกลับไม่ได้ยินเสียงเจ้านาย
แชทคุยกันมากกว่าพูด
สมัยนี้แอพแชตได้รับความนิยมมาก เพราะมีลูกเล่นน่ารักมากมายให้เลือกใช้ จนบางคนใช้การแชตแทนการพูดไปเสียแล้ว ทั้ง ๆ ที่นั่งอยู่ต่อหน้ากันก็ยังไม่เว้น ถึงแม้การแชตกันจะได้ความสะดวกสบายแต่อย่าลืมว่าการคุยสนทนากันซึ่งหน้าจะทำให้เราได้รับรู้อารมณ์ของคู่สนทนาได้ดีและสื่อสารได้ตรงกว่าการอ่านเฉพาะข้อความ ซึ่งเราอาจจะตีความผิดและแน่นอนว่ามันส่งผลกระทบถึงความสัมพันธ์ไม่มากก็น้อย
เล่นมือถือตอนปิดไฟแล้ว
ใครหลายคนคงติดนิสัยนี้ พอปิดไฟก็ยังไม่ลืมหยิบมือถือมาเช็กนู่นเช็กนี่ แค่ 5-10 นาที แต่ไป ๆ มา ๆ ก็เล่นเพลินไปเป็นชั่วโมง จนทำให้เกิดอาการนอนไม่พอและตื่นสาย ยิ่งถ้าเป็นวันทำงานคงเป็นเรื่องแย่เลยทีเดียว แถมการเล่นในที่มืด แสงสว่างจากจอมือถือก็จะส่งผลเสียต่อสายตา นอกจากนี้ยังมีข้อมูลจาก ACS (The American Chemical Society) ที่พบว่าแสงจากมือถืออาจเป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้เกิดโรคนอนไม่หลับในมนุษย์ยุคใหม่ได้ อาจจะทำให้วงจรการนอนหลับของคุณสับสน เพราะแสงสีฟ้าจากมือถือหรืออุปกรณ์ Device ต่าง ๆ จะทำให้ร่างกายของคุณคิดเอาเองว่านี่เป็นเวลาเช้า
