เพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ไปจนถึงความมักง่าย ทำให้ทุกวันนี้สารพิษกลายเป็นเรื่องใกล้ตัวกว่าที่เราคิด!!!
จากข้อมูลขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ พบว่าประเทศไทย มีการใช้ยาฆ่าแมลงมากเป็นอันดับ 5 ของโลก อีกทั้งยังพบว่ามีพบสารเคมีตกค้างในผัก และสารเคมีพิษอันตรายที่ทั่วโลกห้ามใช้
ฉะนั้นทางออกที่ดีที่สุดในการรับประทานผักผลไม้ที่วางขายตามท้องตลาด ก็คือการเลือกซื้อผักผลไม้ปลอดสารพิษหรือผักผลไม้ออร์แกนิกส์แต่หากผักผลไม้ที่ว่าไม่มีฉลากที่ระบุชัดเจนว่าปลอดสารพิษละก้อ สิ่งสำคัญที่คุณจะต้องทำเพื่อเป็นการป้องการสารพิษตกค้างก็คือการล้างผักผลไม้ให้สะอาด ฟังเหมือนจะเป็นเรื่องง่ายๆ แต่หลายคนก็พลาดอย่างแรง ว่าแล้วเราจึงรวบรวม 10การล้างผักผลไม้อย่างถูกวิธีให้นำไปใช้กัน!!
- แช่ผักในน้ำยาล้างผักที่มีวางขายอยู่โดยใช้ความเข้มข้นประมาณ 0.3% ในน้ำ 4 ลิตร แช่ผักผลไม้ไว้ประมาณ 15 นาที
- ใช้น้ำส้มสายชูที่มีกรดน้ำส้มความเข้มข้น 5%ของกรดน้ำส้ม ผสมน้ำในอัตราส่วน 1:10 แช่ไว้ประมาณ10-15 นาที แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด
- ใช้ด่างทับทิม โดยใช้ปริมาณ 20-30 เกล็ด ผสมน้ำ 4 ลิตร แช่ไว้ประมาณ 10 นาที แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด
- ล้างผักโดยน้ำไหลผ่าน โดยเด็ดผักเป็นใบๆ ใส่ตะแกรงโปร่งเปิดน้ำให้แรงพอประมาณ ใช้มือช่วยคลี่ใบผักและถูไปมาบนผิวใบของผักผลไม้นานประมาณ 2 นาที
- ใช้เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำ 4 ลิตร แช่ไว้ประมาณ10 นาที แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด
- ใช้โซเดียมไบคาร์บอเนต (เบกกิ้งโซดา) 1 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำอุ่น 1 กะละมัง (20 ลิตร) แช่ไว้ประมาณ15 นาที แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด
- ใช้ผงถ่านแอคติเวตชาร์โคลหรือผงคาร์บอนกัมมันต์แช่ผักผลไม้ โดยผสมผงถ่าน 1 ช้อนชา ต่อน้ำ 5 ลิตร แล้วนำผักผลไม้มาแช่ไว้ประมาณ15 นาที แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด
- ใช้ผงฟู (Baking Powder) โดยใช้ผงฟูครึ่งช้อนโต๊ะ นำมาผสมกับน้ำอุ่นหรือน้ำธรรมดา 10 ลิตร แล้วนำผักผลไม้มาแช่ไว้ประมาณ 15 นาที แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด
- น้ำปูนใส โดยเตรียมน้ำปูนใสอิ่มตัวที่ผสมกับน้ำเท่าตัว แล้วนำมาผักมาแช่ในน้ำปูนใสประมาณ 10 นาที แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด
- การปอกเปลือกหรือการลอกชั้นนอกของผักออก เช่น กะหล่ำปลี ถ้าลอกใบชั้นนอกออกจะปลอดภัยมากกว่า แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด