คุณอาจจะเป็นคนหนึ่งที่คิดจะเริ่มออกกำลังกายด้วยการวิ่ง อาจจะมองว่าเป็นเรื่องที่ง่าย แค่ใส่รองเท้า ก้าวขาไปข้างหน้า ออกแรงวิ่ง ก็เท่านั้น แต่สำหรับผู้ที่เริ่มต้นนั้นอาจจะไม่รู้ว่าการวิ่งออกกำลังกายของคุณนั้น แทนที่จะได้รับสุขภาพที่ดี หรือมีหุ่นสวยเป๊ะแล้ว อาจจะทำให้คุณเกิดอาการบาดเจ็บได้ อะไรบ้างที่คุณมองข้ามไปมาดูกัน
การออกสตาร์ทเร็วเกินไป
ข้อผิดพลาดโดยมากที่ผู้เริ่มต้นมักทำบ่อยๆ นั่นก็คือ ออกสตาร์ทเร็ว และวิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว แต่นั่นจะทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยเร็วกว่าที่คุณคิด และอาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คุณถอดใจ รู้สึกอยากเลิกวิ่งไปเลยก็ได้
แนวทางแก้ไข : การออกตัววิ่งที่ดี ควรค่อยไปๆและวิ่งอย่างช้าๆ รักษาระดับความเร็วของคุณไว้ จากนั้นจึงค่อยๆเพิ่มระดับความเร็วขึ้นทีละเล็กน้อย ไม่เพียงแต่จะทำให้คุณรู้สึกสนุกสนานในการวิ่ง แต่ยังช่วยลดอาการบาดเจ็บให้คุณได้อีกด้วย
ใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะกับคุณ
บางทีคุณอาจคิดว่าว่า คู่นี่แหละ ใส่แล้วสบาย ไม่กัดเท้าคุณก็โอเคแล้ว แต่นั่นอาจจะไม่เพียงพอสำหรับการเป็นรองเท้าออกกำลังกายที่ดีได้ การใส่รองเท้าที่ไม่พอดีกับเท่าของคุณ อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บได้ เช่น ปวดเข่า ปวดสะโพก หรือปวดหัวไหล่ อาจเรียกได้ว่า แค่เลือกรองเท้าผิด ก็กลายเพชฌฆาตเงียบใกล้ตัวโดยที่คุณไม่รู้ตัว
แนวทางแก้ไข : คุณควรเลือกรองเท้าออกกำลังกายที่พอดีกับเท้าคุณมากกว่าที่จะใส่รองเท้าที่หลวมเกินไป หรือคับเกินไป และลองใส่ดูว่าเวลาที่คุณเดินหรือขยับ มีพื้นที่ในรองเท้าเหลือมากน้อยแค่ไหนหรือคับเกินไปไหม รองเท้าที่ดีจะทำให้คุณรู้สึกสนุกและรักในการออกกำลังกายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
การตั้งเป้าหมายที่เป็นไปไม่ได้
สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับการเริ่มต้นใหม่ๆก็คือตัวเราเองนี่แหละ การชนะใจเราเองเป็นสิ่งที่ยากที่สุด แต่ก็มักจะมาพร้อมกับสิ่งที่ดีกว่าเสมอ สำหรับผู้ที่เริ่มต้นวิ่งออกกำลังกาย การตั้งเป้าหมายในการวิ่งที่มากเกินไป เช่น วันนี้จะต้องวิ่งให้ได้5 กิโลเมตร นั่นอาจเป็นเรื่องที่ยากเกินไปสำหรับผู้ที่เริ่มต้น ทำให้เหนื่อยเกินไป และอาจนำไปสู่การล้มเลิกความคิดที่จะวิ่งออกกำลังกายได้เลยก็ได้
แนวทางแก้ไข : การเริ่มต้นการวิ่งพร้อมกับวางเป้าหมายที่เป็นไปได้ ย่อมทำให้คุณรู้สึกมีแรง มีกำลังใจที่จะวิ่งให้ครบ หรือทำให้สำเร็จ อาจจะเริ่มต้นด้วยการเดินเร็ว หรือการวิ่งเหยาะๆ หรือให้ตัวเองได้หยุดพักบ้างเมื่อรู้สึกเหนื่อย และในครั้งถัดๆมา คุณก็จะสามารถวิ่งได้เพิ่มมากขึ้นโดยที่อาจจะไม่ต้องหยุดพักเลยก็ได้
การได้เติมพลังให้กับตัวเอง
คนเราก็เหมือนรถยนต์คันหนึ่ง หากเราเติมเพียงแค่น้ำให้กับรถยนต์ รถยนต์ก็ไม่สามารถวิ่งได้ แต่ต้องเติมน้ำมันเท่านั้น รถถึงจะวิ่งไปข้างหน้าได้ ก็เหมือนกับคนเราหากได้รับอาหารที่ดี อาหารที่เหมาะสม ก็จะเป็นการช่วยเพิ่มพลังให้กับวันนั้นๆได้ การเลือกทานอาหารที่เหมาะสม ทั้งก่อน หรือหลังออกกำลังกายก็เป็นอีกเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามไปนะ
แนวทางการแก้ไข : หากคุณจะออกกำลังกายประมาณ 1ชั่วโมง คุณอาจจะเลือกทานอาหารพวก โปรตีน หรือคาร์โบไฮเดรต หรือพวกขนมปังธัญพืชเพื่อช่วยเพิ่มพลังให้กับคุณได้