ทำเอาเหล่ากระทาชายผู้ประสบปัญหาผมบางหัวล้านเกิดอาการนอยด์ไปตามๆ กันทันทีที่ได้ยินข่าวว่อนโซเชียลว่าการใช้ยารักษาหัวล้านนั้นส่งผลกระทบสมรรถภาพทางเพศงานนี้ชัวร์หรือมั่วนิ่มเรารวบรวมข้อมูลผลวิจัยจากองค์การเภสัชกรรมมาเป็นคำตอบให้คุณบัดเดี๋ยวนี้แล้ว!!!
นักวิจัยองค์การเภสัชกรรม (อภ.) เผยผลวิจัยการพัฒนายาฟีแนสเทอไรด์ (Finasteride) ซึ่งเป็นยารักษาต่อมลูกหมากโต มาใช้แก้ปัญหาผมร่วงศีรษะล้าน ว่า จากการศึกษาพบว่ายาดังกล่าวมีประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาผมร่วงได้ จึงพัฒนาเป็นสูตรฟิแนสเทอไรด์ 1 มิลลิกรัม ส่วนสูตร 5 มิลลิกรัม ใช้สำหรับต่อมลูกหมากโต
โดยยาดังกล่าวใช้สำหรับผู้ชายที่มีปัญหาผมบางเท่านั้น เพราะเดิมเป็นยารักษาต่อมลูกหมากโต จึงไม่เหมาะในเพศหญิง ยิ่งหากอยู่ระหว่างตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตรอาจมีความเสี่ยงต่อเด็กทำให้พิการได้ สำหรับยาแก้ปัญหาผมร่วงในผู้หญิงอยู่ระหว่างการพัฒนาเช่นกัน
ยาฟิแนสเทอไรด์ 1 มิลลกรัม จะใช้ได้ผลดีในระยะเวลา 6 เดือน ถึง 1 ปี แต่มีผลข้างเคียงในเรื่องต่อมไร้ท่อ ความผิดปกติเกี่ยวกับฮอร์โมน และความดัน ผู้ป่วยโรคความดันจึงต้องระมัดระวัง สิ่งสำคัญก่อนการใช้ยาควรปรึกษาแพทย์ดีที่สุด เพราะเราไม่ทราบว่าอาการผมร่วง เกิดจากอะไรกันแน่ หากเป็นเรื่องของฮอร์โมนก็สามารถใช้ยาตัวนี้ได้ แต่หากไม่ใช่ก็จะไม่ได้ผล อย่างไรก็ตาม ยาดังกล่าวได้มีการทดลองและศึกษาชีวสมมูลในอาสาสมัครประมาณ 30 คน โดยศึกษาเปรียบเทียบกับยาต้นแบบเพื่อพิจารณาคุณภาพ
ในส่วนของผลกระทบกับสมรรถภาพทางเพศของผู้ชาย ส่วนใหญ่จะเป็นในผู้สูงอายุมากๆ แต่ไม่ได้เป็นถาวร ที่สำคัญไม่ได้เกิดปัญหากับทุกคน
ยิ่งในผู้ชายวัยทำงานไม่พบรายงานปัญหานี้ ประกอบกับเมื่อหยุดใช้ยา ปัญหาก็หมด นอกจากนี้ ยาดังกล่าวเมื่อหยุดใช้ก็อาจเป็นได้อีก แต่ไม่ได้หมายความว่าให้ใช้ตลอดไป เพราะหากกังวลผลข้างเคียงให้หยุดใช้ และอาจกลับมาใช้ใหม่ได้อีกประมาณ 1 – 2 ปี เป็นต้น