“ยิ่งแสบ ยิ่งดี!”
จำได้ว่าประโยคสั้นๆนี้ คุณแม่ของผมมักพูดกรอกหูเสมอ เวลาที่ท่านต้องเช็ดล้างทำบาดแผลให้สมัยยังเป็นเด็ก เดิมทีก็ไม่ค่อยจะเชื่อนัก “มันจะดีได้อย่างไร แสบเป็นบ้า!” นานวันเข้าจนอาศัยร่างนี้ได้ 25 ปี ผมก็เกิดเชื่ออย่างสนิทใจแบบนั้นมาตลอดว่า ใช้แอลกอฮอล์ล้างแผล ที่มันแสบเพราะมันฆ่าเชื่อโรคได้ดี และจะดีที่สุดคือทำอย่างไรก็ได้ให้แผลมันชุ่มฉ่ำไปด้วยแอลกอฮอล์ และให้เราสะดุ้งโหยงด้วยความแสบมากที่สุด…เป็นดี ทว่า, วิธีใช้แอลกอฮอล์ล้างแผลที่ถูกต้อง ใครบอกให้ใช้แอลกอฮอล์เช็ดบนแผล เพราะนอกจากจะแสบฟรีแล้ว ยังทำให้แผลหายช้าอีกต่างหาก
นั่นก็เพราะวิธีการใช้แอลกอฮอล์ล้างแผลที่ถูกต้อง คือ ต้องนำแอลกอฮอล์ไปเช็ดรอบแผล ไม่ใช่เอาแอลกอฮอล์ไปเช็ดฉ่ำที่แผล เพราะแบบนั้นจะทำให้แผลหายช้าลงเข้าไปอีก เนื่องจากแอลกอฮอล์มีฤทธิ์ทำลายโปรตีนในเนื้อเยื่อ ทำให้เกิดเนื้อตาย และทำให้แผลแสบร้อน เกิดอาการระแคะระคายเคืองอีกด้วย
อะฮือ! แล้วควรจะใช้อะไรล้างแผลดีล่ะ?…คำตอบคือ ‘น้ำเกลือ’ สิจ๊ะ อาจจะใช้เป็นน้ำเกลือที่มีความเข้มข้น 0.90% สำหรับล้างแผลโดยตรง ซึ่งมีขายตามร้านขายยา หรือจะใช้เกลือที่บ้านก็ได้ โดยนำเกลือ 1 ช้อนโต๊ะ หรือ 3 ช้อนชา ผสมน้ำสะอาด 1 ลิตร ต้มให้เดือดเพื่อฆ่าเชื้อโรค จากนั้นทิ้งไว้ให้เย็นแล้วนำไปล้างแผล หากเหลือให้เก็บใส่ไว้ในขวดที่สะอาด ปิดฝาให้แน่น…ชนิดอากาสก็เล็ดลอดเข้าไม่ถึง ทั้งนี้, ควรใช้ให้หมดภายใน 7 วันด้วยนะครับ
รู้อย่างนี้แล้ว, คุณแม่ของผมถึงกับสะดุ้งโหยง โก่งตัวร้อง “อะฮือๆ” แต่ไม่ว่าอย่างไร…เจ้าแอลกอฮอล์น้ำสีฟ้าแสบทรวงนี้ ก็ยังเป็นยาที่ล้างแผลได้ดีและสะดวกที่สุด เพียงแต่เราต้องรู้จักใช้กันอย่างถูกวิธี รับรองว่า…เชื้อโรคเชื้อรัง ไม่มีทางได้ย่ำกรายบนแผลของเราเป็นอย่างแน่
อนึ่ง, ยาขม ไม่มีใครชอบ แต่ขึ้นชื่อว่าเป็น ‘ยาขม’…มักเป็นยาดีเสมอ
