ผลไม้ ถือเป็นหนึ่งในอาหารที่ดีต่อสุขภาพ หากได้รับในประมาณที่เหมาะสม ทั้งยังเป็นทางเลือกของคนที่ต้องการลดน้ำหนัก เพราะนอกจากมีวิตามินแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายแล้ว ผลไม้บางชนิดยังมีแคลอรี่ต่ำ แต่กากใยอาหารหรือไฟเบอร์สูง จึงเหมาะกับการลดน้ำหนัก รวมถึงช่วยให้การขับถ่าย
1. แก้วมังกร
เป็นผลไม้ที่ดีต่อการลดน้ำหนัก เนื่องจากมีกากใยที่สูงแถมแคลอรีต่ำ ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบขับถ่าย ทั้งยังมีสารกลุ่มโอลิโกแซคคาไรด์ ซึ่งช่วยปรับสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ ลดเสี่ยงท้องผูก นอกจากนี้ยังช่วยลดการดูดซึมของไขมัน ทั้งยังช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดได้ โดยแก้วมังกร น้ำหนัก 100 กรัม ให้พลังงาน 60 แคลอรี ให้ไฟเบอร์ 2.6 กรัม
2. ส้ม
ผลไม้รสเปรี้ยวอมหวานสามารถนำมาทำเครื่องดื่มที่ดื่มแล้วสดชื่น ที่สำคัญมีแคลอรี่ต่ำ แต่ไฟเบอร์สูง ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น รวมถึงช่วยให้ร่างกายควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้อีกทาง วิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระที่มีในเนื้อส้มยังมีส่วนช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด โดยส้ม น้ำหนัก 100 กรัม ให้พลังงาน 42 แคลอรี ให้ไฟเบอร์ 2.4 กรัม
3. มะละกอสุก
ได้ชื่อว่าเป็นผลไม้ดีท็อกซ์ เนื่องจากมีใยอาหาร ช่วยล้างสำไส้ให้สะอาด ขจัดไขมันตามผนังของลำไส้ มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อลำไส้ เช่น เบต้าแคโรทีน และเอนไซม์ที่ช่วยย่อยปรับสมดุลระบบขับถ่ายให้ดีขึ้น แคลอรี่ต่ำ รวมถึงมีเพคทิน ลดการดูดซึมน้ำตาล มีผลต่อการลดความอ้วน โดยมะละกอ น้ำหนัก 100 กรัม ให้พลังงาน 43 แคลอรี ให้ไฟเบอร์ 2 กรัม
4. สตรอว์เบอร์รี่
ผลไม้ที่อุดมด้วยวิตามินซี ซึ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงผิวพรรณ มีแคลอรีต่ำ ไฟเบอร์สูง นอกจากนี้ สตรอว์เบอร์รีมีคุณสมบัติช่วยเพิ่มการผลิตฮอร์โมนอะดิโปเนกติน และฮอร์โมนเลปติน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยเร่งระบบการเผาผลาญ จัดการไขมันสะสมในร่างกายได้อยู่หมัด โดยสตรอว์เบอร์รี่ น้ำหนัก 100 กรัม ให้พลังงาน 33 แคลอรี ให้ไฟเบอร์ 2 กรัม
5. บลูเบอร์รี่
เป็นผลไม้ที่มีเส้นใยมาก ช่วยให้รู้สึกอิ่มเร็วและอิ่มนานกว่าผลไม้หลายๆ ชนิด จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก มีแคลอรี่ต่ำ แต่มีไฟเบอร์สูง จึงมีส่วนช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ในบลูเบอร์รี่ยังมีสารแอกติไนด์ ซึ่งเป็นตัวช่วยย่อยโปรตีนได้ดี โดยบลูเบอร์รี่ น้ำหนัก 100 กรัม ให้พลังงาน 57 แคลอรี ให้ไฟเบอร์ 2.4 กรัม
6. แอปเปิ้ล
เป็นผลไม้ที่มีแคลอรี่ต่ำ มีปริมาณน้ำตาลต่ำ แต่มีไฟเบอร์และน้ำในปริมาณมาก จึงช่วยให้รู้สึกอยู่ท้อง อิ่มได้นานขึ้น นอกจากนี้ใยอาหารในแอปเปิ้ลที่ชื่อว่าเพคตินยังมีส่วนสำคัญต่อการย่อยอาหาร ช่วยดูดซับน้ำในระบบทางเดินอาหาร ช่วยให้อุจจาระนิ่มขึ้นและขับถ่ายได้ง่าย โดยแอปเปิ้ล น้ำหนัก 100 กรัม ให้พลังงาน 52 แคลอรี ให้ไฟเบอร์ 2.4 กรัม
7. ฝรั่ง
ฝรั่งเป็นผลไม้ที่มีแคลอรี่ต่ำ รวมถึงมีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ เมื่อกินเข้าไปแล้วระดับน้ำตาลในเลือดจึงไม่พุ่งสูง แต่กินแล้วอยู่ท้องอิ่มนาน อีกทั้งการกินฝรั่งยังช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด เนื่องจากใยอาหารในฝรั่งสามารถลดการดูดซึมของน้ำตาลในลำไส้ ช่วยให้ร่างกายจัดการกับน้ำตาลได้ดีขึ้น โดยฝรั่ง น้ำหนัก 100 กรัม ให้พลังงาน 60 แคลอรี ให้ไฟเบอร์ 5 กรัม
8. เสาวรส
ใครที่มีปัญหาเรื่องขับถ่าย เสาวรสเป็นตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม เพราะอุดมไปด้วยกากใยอาหาร ช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย ลดอาการท้องผูก พร้อมทั้งช่วยให้การขับถ่ายเป็นไปอย่างปกติ นอกจากนี้ยังมีแมกนีเซียมสูง ช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกาย ทั้งยังลดไขมันในเส้นเลือดได้อีกด้วย โดยเสาวรส น้ำหนัก 100 กรัม ให้พลังงาน 50 แคลอรี ให้ไฟเบอร์ 10 กรัม
ถึงแม้ว่าผลไม้ที่กล่าวมาจะให้แคลอรีที่ต่ำ แต่ก็ควรกินในปริมาณที่เหมาะสม รวมถึงกินร่วมกับอาหารมื้อหลัก เพราะการกินผลไม้เพียงอย่างเดียว จะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่ครบ 5 หมู่ ที่สำคัญต้องออกกำลังกายสม่ำเสมอด้วย