ก้าวเข้าสู่ปีใหม่แล้วเทคโนโลยีก็ใหม่และพัฒนาตามไปด้วย นับว่าเป็นอีกปีที่น่าตื่นเต้นของนวัตกรรมด้านสุขภาพดิจิทัล ดังนั้น เทรนด์ทางการแพทย์ที่น่าจับตามองในปี 2024 ในขณะนี้ในแง่ของการกำหนดรูปแบบการให้บริการด้านการดูแลสุขภาพกัน
เรามักจะรู้จัก Goolge ดีอยู่แล้ว ซึ่งกำลังเปิดตัวโมเดล AI ใหม่สำหรับการดูแลสุขภาพ นี่คือวิธีที่แพทย์ใช้พวกเขา Google เพิ่งประกาศโมเดล AI ด้านการดูแลสุขภาพ (อาจเป็นแบบกำเนิด) อีกชุดหนึ่งเรียกว่า MedLM และเกี่ยวข้องกับโมเดล AI เฉพาะด้านการดูแลสุขภาพที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้แพทย์และนักวิจัยดำเนินการศึกษาที่ซับซ้อน และสรุปปฏิสัมพันธ์ระหว่างแพทย์กับผู้ป่วย และอื่นๆ อีกมากมาย “ชุด MedLM ประกอบด้วยโมเดล AI ขนาดใหญ่และขนาดกลาง ซึ่งทั้งคู่สร้างขึ้นบน Med-PaLM 2 ซึ่งเป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่ได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับข้อมูลทางการแพทย์ที่ Google โดยทั่วไปจะพร้อมให้บริการแก่ลูกค้า Google Cloud ที่มีสิทธิ์ในประเทศสหรัฐอเมริกา กรณีการใช้งานจริง
เมื่อ Google ประกาศ Med-PaLM 2 ในตอนแรกบริษัทกล่าวว่าสามารถใช้เพื่อตอบคำถามเช่น
“สัญญาณเตือนแรกของโรคปอดบวมคืออะไร” และ “การกลั้นปัสสาวะรักษาให้หายขาดได้หรือไม่ แต่เนื่องจากบริษัทได้ทดสอบเทคโนโลยีแล้ว กรณีการใช้งานก็เปลี่ยนไป หัวหน้าฝ่าย AI ด้านสุขภาพของ Google กล่าว แพทย์มักไม่ต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับคำถามที่ “เข้าถึงได้” เกี่ยวกับธรรมชาติของโรค ดังนั้น Google จึงไม่เห็นความต้องการความสามารถเหล่านั้นจากลูกค้ามากนัก ในทางกลับกัน องค์กรด้านสุขภาพมักต้องการให้ AI ช่วยแก้ปัญหา back-office หรือปัญหาด้านลอจิสติกส์ เช่น การจัดการงานเอกสาร
HCA เฮลธ์แคร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในระบบสุขภาพที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา ได้ทำการทดสอบเทคโนโลยี AI ของ Google มาตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ผลิ บริษัทประกาศความร่วมมืออย่างเป็นทางการกับ Google Cloud ในเดือนสิงหาคมโดยมีเป้าหมายที่จะใช้ AI เเพื่อ “ปรับปรุงขั้นตอนการทำงานในงานที่ใช้เวลานาน”
การใช้ MedLM เพื่อช่วยให้แพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉินบันทึกปฏิสัมพันธ์ของพวกเขากับผู้ป่วยได้โดยอัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น ใช้ระบบเอกสารคำพูด เพื่อถอดเสียงการประชุมระหว่างแพทย์และผู้ป่วย จากนั้นชุด MedLM ของ Google จะนำการถอดเสียงเหล่านั้นและแบ่งออกเป็นองค์ประกอบของบันทึกของผู้ให้บริการ ER ในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล และคาดว่าเทคโนโลยีของ Google จะสามารถสร้างบันทึกมากกว่าครึ่งหนึ่งได้สำเร็จ สำหรับแพทย์ที่สามารถใช้เวลาถึง 4 ชั่วโมงต่อวันกับเอกสาร เป็นกาารการประหยัดเวลา แต่ทั้งนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น และจำเป็นต้องได้รับการทดสอบและมีการควบคุม ซึ่งคาดว่าอาจทำให้เรามีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอีกระดับเมื่อได้ใช้ ทั้งนี้ยังมีเป้าหมายที่จะใช้ AI เพื่อแก้ปัญหาในการค้นคว้ายาเพิ่มเติม
นอกจากนี้ยังมีบริษัทที่รวมเทคโนโลยีของตนพร้อมกับ AI ดังกล่าวให้เข้ากันฃ เพื่อช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ระบุตัวบ่งชี้ทางชีวภาพ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการทำความเข้าใจว่าโรคดำเนินไปอย่างไรและจะรักษาให้หายขาดได้อย่างไร ซึ่งอยู่ในช่วงการวิจัยและปรับแต่งโมเดลสำหรับการใช้เทคโนโลยีในด้านต่างๆ เพื่อรองรับการใช้งานในองค์กร โดยที่ Google จะยังคงพัฒนาโมเดลเฉพาะโดเมนที่ “เล็กลง ราคาถูกกว่า เร็วกว่า และดีกว่า” ต่อไป แต่ทั้งนี้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยลดและทุ่นเวลาให้เราทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ดียังคงต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญในการคิด วิเคราะห์ร่วมด้วยค่ะ