วิธีบริหาร “งาน” ไม่ให้ครอบงำ… ครอบครัว

0

ด้วยการเปลี่ยนแปลงทางสภาพเศรษฐกิจและสังคม  ทำให้ปัจจุบันนี้คนรุ่นใหม่ไฟแรงหรือแม้แต่คนวัยทำงานต่างมุ่งมั่นแข่งขันเพื่อความสำเร็จ  นอกจากนี้ด้วยแรงกระตุ้นจากสื่อ  สิ่งต่างๆ ที่ยั่วยุความอยากได้อยากมี  การเปรียบเทียบ   อีกทั้งด้วยเทคโนโลยีหรือแม้แต่สภาวะแวดล้อมที่เอื้อให้เราสามารถทำงานได้ตลอดแบบไม่จำกัดเวลายิ่งทำให้คนเราทำงานกันแบบไม่ลืมหูลืมตา  จนบางคนลืมที่จะให้เวลากับครอบครัว  ไม่ว่าจะในฐานะลูกจ้างขององค์กรต่างๆ หรือการมีธุรกิจเป็นของตัวเอง

แน่นอนว่าทุกคนคงคิดเหมือนกันว่า  ตอนนี้ยังมีแรง  ตอนนี้ยังมีโอกาสต้องรีบคว้าไว้  วันหน้าจะได้สบาย  แต่ลองหยุดคิดสักนิดแล้วพิจารณาดูดีๆ สิคะว่า  กว่าจะถึงวันนั้นคุณต้องพลาดอะไรไปบ้าง  ถ้าไม่อยากให้สายเกินการณ์  เรามาดูวิธีบริหารงานจัดการชีวิตกันค่ะ

วิธีบริหาร “งาน” ไม่ให้ครอบงำ... ครอบครัว (1)

บริหารเวลาอย่างจริงจัง

เน้นคำว่า “จริงจัง” เลยนะคะ  เพราะเชื่อว่านักบริหารทั้งหลายคงรู้จักการวางแผนและจัดสรรเวลาได้ดีเยี่ยมอยู่แล้ว  แต่สิ่งสำคัญที่จะทำให้แผนนั้นบรรลุเป้าหมายได้  คือต้องทำตามที่วางแผนอย่างเข้มงวดเคร่งครัด  อย่าคิดว่า  นิดหน่อยน่า  ก็ต้องมีบ้าง  เพราะหากเป็นเช่นนั้นแล้ว  อะไรๆ ก็คงไม่ต่างไปจากเดิมหรอกค่ะ  จริงไหม

อาจจะดูยากสักหน่อย แต่สิ่งที่คุณควรจะทำ คือ ลองระบุให้ชัดเจนว่า คุณจะใช้เวลาในการทำงานกี่วันกี่ชั่วโมงในแต่ละสัปดาห์ แล้วบริหารให้ได้ตามนั้น  การหอบงานกลับมาทำที่บ้านเป็นอะไรที่ควรจะรีบตัดออกจากโปรแกรมการทำงานของคุณ  แม้จะยังทำไม่ได้ในทันทีก็สามารถค่อยเป็นค่อยไปได้

จัดลำดับความสำคัญของงานอย่างชัดเจน

คุณต้องทบทวนให้รอบคอบว่างานอะไรที่เร่งด่วนและสำคัญ คุณควรทำงานเหล่านั้นก่อน และอย่าลืมที่จะกลับไปทบทวนและจัดลำดับความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้เป็นระยะๆ  อะไรที่ยังพอวางมือได้เมื่อถึงเวลาที่คุณจัดสรรให้กับการพักผ่อนและครอบครัว  คุณก็ควรวางหรือวางใจให้คนอื่นทำแทนบ้าง

วิธีบริหาร “งาน” ไม่ให้ครอบงำ... ครอบครัว (2)

บริหารหัวหน้าของคุณหรือตัวคุณเอง (ในฐานะเจ้านายของตัวเอง) ให้เป็น

แน่นอนว่าหากคุณทำงานให้กับองค์กรใดองค์หนึ่ง  หัวหน้าหรือเจ้านายของคุณย่อมมักจะมี project หรือความคิดใหม่ๆ ที่ทำให้คุณต้องเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา  แต่! คุณไม่จำเป็นต้องวิ่งตามความคิดเหล่านั้นตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเจ้านายคุณเป็นคนที่ไม่สามารถจัดลำดับความสำคัญได้เป็นอย่างดีแล้วด้วย ดังนั้นคุณต้องทำให้แน่ใจว่าเจ้านาย (หรือตัวคุณ) มุ่งมั่นกับความคิดนั้นจริงๆ ก่อนที่จะต้องลงทุนลงเวลาไปกับเรื่องเหล่านั้น  หัดนิ่งเฉยบ้าง  ไม่จำเป็นต้องสนองทุกสิ่งที่เจ้านายคุณต้องการ  หากคุณพิจารณาแล้วว่าสิ่งนั้นอาจไม่สมเหตุสมผล  หรือเกินจากขอบข่ายเวลาที่คุณจะรับผิดชอบได้

 

ลองพิจารณาดูสิคะว่า  ตอนนี้คุณกำลังอนุญาตให้ “งาน” ครอบงำชีวิตครอบครัวของคุณอยู่หรือเปล่า   ถ้าเป็นเช่นนั้น ลองนำวิธีเหล่านี้ไปใช้ดู  อาจปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม แล้วมาดูกันสิคะว่าผลลัพธ์จะออกมาดีเว่อร์แค่ไหน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *