สังเกตลูกน้อย! ซนแบบไหน…เข้าข่ายสมาธิสั้น

0

เด็กซนคือเด็กฉลาด เป็นประโยคที่เราได้ยินกันมานาน เรียกว่าเป็นข้อความที่มีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย สำหรับพ่อแม่ที่มีลูกน้อยเราอยากให้โฟกัสกับความซุกซนของเจ้าตัวเล็กเป็นพิเศษ อย่ามองมุมเดียวว่าเด็กซนเป็นเรื่องปกติ หรือซนเพราะฉลาด เพราะพฤติกรรมซุกซนนั้น ถือเป็นหนึ่งในอาการของโรคสมาธิสั้น

 

เด็กซน

 

โรคสมาธิสั้น (Attention-deficit hyperactivity disorder;ADHD) พบได้ตั้งแต่เด็กอายุ 4-5 ปีขึ้นไป และพบได้มากถึงร้อยละ 5 ในเด็กวัยเรียน สำหรับสาเหตุของโรคสมาธิสั้นเกิดจากปัจจัยหลายอย่างร่วมกันโดยมีปัจจัยหลัก คือ

 

  1. ปัจจัยทางชีวภาพ ได้แก่ ปัจจัยทางด้านพันธุกรรม ปัจจัยทางด้านระบบประสาท ซึ่งเกิดจากสารในสมองส่วนหน้า คือ โดพามีน (Dopamine) และ นอร์เอพิเนฟริน (Norepinephrine) ที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการควบคุมพฤติกรรมและสมาธิมีการทำงานที่ลดลง การดื่มเหล้าและสูบบุหรี่ของแม่ขณะตั้งครรภ์ ทารกที่คลอดก่อนกำหนด และมีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ

 

  1. ปัจจัยทางสภาพแวดล้อมและการเลี้ยงดู ซึ่งทำให้เด็กมีอาการคล้ายโรคสมาธิสั้นมากขึ้น โดยการเลี้ยงดูของพ่อแม่ที่ขาดระเบียบวินัย นอนดึก นอนน้อย และมีการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ ต่างๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต และโทรทัศน์เป็นเวลานาน จะทำให้เด็กขาดทักษะสังคมและการสื่อสาร รวมถึงอาจมีปัญหาพฤติกรรมรุนแรงที่เกิดจากการเลียนแบบสิ่งที่ดูจากสื่ออิเล็กทรอนิกส์

 

มักมีความเข้าใจผิดว่า เด็กที่ดูโทรทัศน์ แท็บเล็ต หรือเล่นเกม ได้นานต่อเนื่องหลายชั่วโมง ไม่เป็นสมาธิสั้น ซึ่งตัวกระตุ้นเหล่านี้ เป็นสิ่งเร้าที่มีความน่าสนใจและดึงดูดความสนใจได้สูง มีการเคลื่อนไหวของภาพและเสียงตลอดเวลา จึงไม่จำเป็นต้องใช้สมาธิจดจ่อมาก การสังเกตว่ามีสมาธิหรือไม่ จึงควรพิจารณาจากกิจกรรมในชีวิตประจำวันที่ต้องทำ แต่ไม่ใช่สิ่งที่เด็กชื่นชอบหรือสนใจมากเป็นพิเศษ เช่น การทำการบ้าน การทบทวนบทเรียน การทำงานที่ได้รับมอบหมาย เป็นต้น

 

ข้อมูลจาก นายแพทย์อดิศัย ภัตตาตั้ง ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ระบุว่า วิธีการสังเกตอาการของลูกให้ดูอาการหลัก 2 ด้านคือ

  1. ขาดสมาธิ มีสมาธิสั้น ขี้ลืม ทำงานไม่สำเร็จ ไม่สามารถจดจ่อกับสิ่งตรงหน้า (ไม่รวมถึงการดูสื่ออิเล็คทรอนิกส์)
  2. มีพฤติกรรมซุกซน นั่งไม่ติดที่ พูดมากหรือพูดโพล่ง และขาดความยับยั้งชั่งใจ ไม่สามารถควบคุมตนเองได้ ซึ่งเด็กบางคนอาจมีอาการเพียงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือมีทั้ง 2 กลุ่มอาการร่วมกันก็ได้

 

การรักษาโรคสมาธิสั้นจะประกอบด้วยการปรับพฤติกรรมโดยเฉพาะในเด็กเล็ก คือ มีการสอนให้เด็กรู้จักการอดทนและรอคอย มีการจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม ลดการใช้สื่ออิเลคทรอนิกส์ ซึ่งต้องใช้เวลานานและต้องทำอย่างสม่ำเสมอโดยมีแพทย์คอยให้คำปรึกษาในแต่ละขั้นตอน ผู้ป่วยในบางรายอาจมีการรักษาด้วยยารับประทานควบคู่กับการปรับพฤติกรรม

 

ทั้งนี้ พ่อแม่ผู้ปกครองควรหมั่นสังเกต และติดตามอาการลูกน้อยอย่างใกล้ชิด หากพบอาการดังกล่าว ควรไปพบจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น และกุมารแพทย์ทางด้านพัฒนาการและพฤติกรรมเพื่อทำการรักษาต่อไป

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *