“โรคหวัด” สำหรับคนทั่วไปแล้ว คงไม่รู้สึกว่ามันหนักหนาอะไร เพราะหากดูแลรักษาตัวให้ดี รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนเยอะๆ ไม่ช้าก็คงหายเป็นปกติ แต่สำหรับพ่อแม่ที่มีลูกน้อยวัยทารกนั้น เมื่อลูกป่วยด้วยโรคหวัดก็ย่อมกังวลใจ เพราะเด็กวัยนี้ค่อนข้างบอบบาง ฉะนั้น ต้องดูแลอย่างใส่ใจและถูกวิธีค่ะ
อาการของโรคหวัดที่มักเกิดกับทารก ได้แก่ คัดจมูกน้ำมูกไหล ไอ ครั่นเนื้อครั่นตัว อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ตัวร้อน มีไข้ ทั้งนี้ อาการหวัด คัดแน่นจมูก หายใจไม่สะดวก มีน้ำมูก ทำให้เบบี๋รู้สึกไม่สบายตัว ดูดนมได้ไม่ค่อยดี งอแง หงุดหงิด นอนไม่ได้ ดังนั้น พ่อแม่ควรดูแลเบบี๋ตามนี้ค่ะ
วิธีการดูแลเมื่อเบบี๋เป็นไข้หวัด
การระบายน้ำมูกในจมูก
จะช่วยให้เบบี๋สบายตัวขึ้น จมูกสะอาด ลดการแพร่เชื้อและลดการใช้ยาลงได้ด้วย วิธีการระบายน้ำมูกในจมูกมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับอายุของเด็ก อาการและการอุดตันของรูจมูก ความเหนียวและปริมาณของน้ำมูก เช่น การพ่นจมูก, การล้างจมูก, การดูดน้ำมูก
สำหรับวิธีการระบายน้ำมูกในจมูกที่ทำได้ง่ายแนะนำให้ใช้การพ่นจมูก เช่น สเปรย์พ่นจมูกสำหรับเด็กอ่อน อควา มาริส เบบี้ ที่มีมีส่วนประกอบหลักคือ น้ำทะเลที่ได้รับการปรับให้เหมาะสำหรับการใช้งานกับเยื่อบุจมูก โดยไม่รบกวนการทำงานตามธรรมชาติของเยื่อบุจมูก เหมาะสำหรับเด็กที่มีอาการหวัดและภูมิแพ้
เช็ดตัว
เมื่อลูกตัวร้อน มีไข้ คุณพ่อคุณแม่ควรลดไข้ให้ลูกด้วยการเช็ดตัว โดยถอดเสื้อผ้าของลูกออก แล้วใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นบิดให้หมาดๆ โดยเช็ดแบบย้อนรูขุมขนให้ทั่วตัวตั้งแต่ใบหน้า ลำคอ แขน ลำตัวและขา โดยเฉพาะตามข้อพับ เช่น ซอกคอ รักแร้ ขาหนีบ หลังเช็ดตัวเสร็จและตัวลูกแห้งดีแล้วให้สวมเสื้อผ้า
ใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กชุบน้ำบิดหมาด วางบนหน้าผาก รักแร้ และซอกคอ เพื่อช่วยคลายความร้อน ทั้งนี้ หลังเช็ดตัวอุณหภูมิควรลดลงประมาณ 1 องศาเซลเซียส แต่หากไข้ยังสูงก็ควรเช็ดตัวซ้ำ
ดูแลอาหารการกิน
ดูแลอาหารการกินของเบบี๋ให้ครบครันทั้งในแง่ปริมาณและคุณค่าของสารอาหารที่ครบถ้วน อาการไข้จะทำให้ลูกมีเหงื่อออก พ่อแม่ควรให้นมเพิ่มจากมื้อปกติ เพื่อให้ร่างกายของลูกได้รับน้ำเพิ่มขึ้น
หลักสำคัญของการรักษาไข้หวัดอยู่ที่การพักผ่อน กินอาหารที่มีประโยชน์ และให้ยารักษาตามอาการ โดยพ่อแม่ต้องให้ปริมาณยาที่ถูกต้องตามใบกำกับยาอย่างเคร่งครัดนะคะ