เคยเป็นหรือไม่ที่พบว่าหลาย ๆ ครั้งที่คุณพยายามที่จะทำการไดเอตหรือทำการลดน้ำหนักกลับมักพบว่าน้ำหนักนั้นกลับไม่ยอมลดลงง่าย ๆ สัดส่วนก็ยังคงรักษาระดับไว้คงที่เหลือเกิน
หากสาว ๆ ท่านใดกำลังพบเจอกับปัญหาแบบนี้นั่นเป็นสัญญาณที่สำคัญมากที่กำลังบอกเป้นนัย ๆ ว่าคุณนั้นกำลังออกกำลังกายน้อยไป เบาไปจนยังไม่ถึงจุดของการเข้าไปถึงคำว่าเบิร์นแคลอรี่ด้วยซ้ำไป ทำให้ออกกำลังกายนั้นการเป็นไม่ได้อะไรเลยแทน สำหรับสัญญาณที่พูดถึงนี้
1.ออกกำลังกายจริงอยู่แต่เหงื่อไม่เห็นมี
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ออกกำลังกายเป็นประจำแต่เวลาออกกำลังกายเหงื่อแทบไม่มีสักหยดแบบนี้ถือว่าไม่ปราบความสำเร็จ การออกกำลังกายเพื่อการเบิร์นนั้นไม่ใช่สิ่งที่ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นแต่ยังรวมถึงเรื่องของความได้ประสิทธิภาพของการออกกำลังกายที่คุณทำด้วย หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกกันว่า “MAXIMUM HEART RATE” นั่นเอง
ซึ่งความหมายก็คืออัตราการเต้นหัวใตที่อยู่ในระดับสูงสุดซึ่งในคนแต่ละคนจะมีค่าที่แตกต่างไม่เหมือนกันโดยวิธีคำนวณก็คือ เอาเลข 220 ไปลบเข้ากับอายุตนเองหรือหากใช้วิธีการสังเกตก็เอาจากการดูที่ปริมาณเหงื่อที่ผิวตอนกำลังออกกำลังกาย หากใครที่ไม่เห็นเหงื่ออกเลยนั่นแปลว่ายังออกไม่พอต้องออกหนักกว่าเดิมเข้าอีก
2.ไม่เกิดความรู้สึกเมื่อย
หรือรู้สึกแบบปวดหลังเลยแม้แต่เล็กน้อย ตามปกติของคนเรานั้นเมื่อใดก้ตามที่ออกกำลังกายย่อมต้องมีความรู้สึกเมื่อล้าหรือรู้สึกปวดตามเนื้อตามตัวอยุ่แลช้วแต่หากคุณกลับกลายเป็นว่าออกกำลังกายแล้วแต่ไม่มีอาการเหล่านี้เลยนั่นแปลว่าคุณนั้นออกกำลังกายจริงแต่กล้ามเนื้อแทบไม่ได้ใช้เท่าที่ควรจะเป็น
ส่วนของอัตราการเต้นหัวใจเองก็ไม่ได้มีผลเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใดซึ่งหากยังคงเป็นเช่นนี้นั่นแปลว่าการออกกำลังกายที่คุณทำอยู่นั้นเป็นสิ่งที่ควรเปลี่ยนแล้วลองไปศึกษาดูว่าการออกกำลังกายแบบใดที่เหมาสมกับคุณ แบบใดที่เพิ่มระดับของความเข้มข้นเกี่ยวกับการออกกำลังกายให้กับคุณได้แบบที่เข้าถึงระบบเผาผลาญได้
มาลองเช็คกันดูสิว่าคุณออกกำลังกายเบาเกินไปหรือไม่ ถ้าใช่ก็หันมาออกกำลังกายให้มากขึ้นกันดีกว่า