ด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยทำให้ปัจจุบันเราสามารถติดต่อสื่อสารและรับทราบข้อมูลข่าวสารได้สะดวกรวดเร็วขึ้น โดยเฉพาะการสื่อสารผ่าน Social media ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Line, WhatsApp, Twitter, Facebook, Instagram ฯลฯ แต่ก็ทำให้เกิดผลเสียในวงกว้าง เมื่อการใช้ Social media เหล่านี้ทำให้คนรัก คนในครอบครัว พ่อแม่ลูกหันมาพูดคุยกันน้อยลง เพราะต่างคนต่างก้มหน้าจิ้มแต่ Smart phone ของตัวเอง
หากเรากลับมานั่งทบทวนกันให้ถ้วนถี่จัดสรรพื้นที่และเวลาให้ดีๆ แล้ว เราก็สามารถใช้เจ้า Social media นี่แหละค่ะเป็นตัวกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัวให้ยิ่งอบอุ่น แน่นแฟ้น หวานชื่น ขึ้นมาอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าสัญญาณ 4G ซะอีก
ทำอย่างไร มาดูกันค่ะ!
สร้างข้อตกลงที่ชัดเจน
คุณควรจะพูดคุยถึงความต้องการหรือความจำเป็นของแต่ละคน แล้วกำหนดกฎเกณฑ์การใช้ Social media ในช่วงเวลาที่ชัดเจนว่าตอนไหน YES ตอนไหน NO เช่น NO ตอนกินข้าว, NO เมื่ออยู่บนเตียงพร้อมนอน, NO เมื่ออยู่กับครอบครัว เพื่อให้ต่างคนต่างไม่อึดอัดจนเกินไป ในขณะเดียวกันก็มีเวลาได้พูดคุยกันมากขึ้น และใช้เวลาด้วยกันอย่างเต็มที่
เคารพติกา
แน่นอนค่ะว่าสังคมไหนๆ ก็ต้องการกติกา หากคุณวางข้อตกลงต่อกันไว้อย่างไรก็ควรจะปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด การทำบ้างไม่ทำบ้างแสดงให้เห็นถึงความไม่จริงจัง ไม่ให้เกียรติ แล้วยังทำให้หมดความน่าเชื่อถือ ไม่น่าเชื่อใจ ส่งผลให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้งกันตามมาอีก
ส่งข้อความหากันเป็นกิจวัตร
เช่น Good Morning, Good night, ฝันดี จุ๊บๆ, ทานข้าวรึยัง, วันนี้ทำงานเหนื่อยไหม, คิดถึงจัง, เป็นห่วงนะ, สู้ๆ ฯลฯ ข้อความเหล่านี้อาจจะดูเป็นข้อความธรรมดาๆ แต่เชื่อได้ว่ามีใครหลายต่อหลายคนที่ไม่กล้าจะพูดกันซึ่งๆ หน้า ไม่ใช่เฉพาะในฐานะคนรักเท่านั้น ข้อความเหล่านี้เป็นกำลังที่ดีสำหรับคนในครอบครัวทุกคน ซึ่งเป็นช่องทางที่แสดงออกถึงความรักความห่วงใยได้เป็นอย่างดี
ส่งภาพถ่าย, VDO
ถึงกันเพื่อแสดงว่าให้รู้ว่า เราอยากให้เขามีส่วนร่วมรับรู้ในสิ่งที่เราทำ ให้ความสำคัญและนึกถึง เช่น เวลาออกไปทำงานนอกสถานที่ หรือ นัดสังสรรค์กับเพื่อนๆ เมื่อเขาไม่ได้ไปด้วย สำหรับคนรักก็คงเรียกง่ายๆ ว่ารายงานตัวนั่นแหละค่ะ
VDO Call, Face Time
คุยข้ามประเทศก็ไม่เสียสตางค์ ใช้เกิดประโยชน์นะจ๊ะ ไม่ว่าจะอยู่ห่างกัน หรือจำเป็นต้องไปทำงานต่างจังหวัด ก็ใช้เทคโนโลยีย่นระยะทาง ถึงห่างไกลแต่เราไม่ห่างกันจ้า
ใช้ง้อ
เวลาโกรธกันบางครั้งแค่เห็นหน้าก็อยากเดินหนีไม่อยากรับฟังอะไรแล้ว หรือพูดกันไม่กี่คำก็พาลจะวงแตก social media เป็นอีกช่องทางที่เราสามารถใช้แสดงความรู้สึกนึกคิดในเวลาที่ไม่เข้าใจกัน จนไม่สามารถจะพูดคุยกันได้ในบางสถานการณ์ เพราะเราสามารถไตร่ตรองเรียบเรียงสิ่งที่ต้องการถ่ายทอดก่อนจะส่ง ส่วนคนรับข้อความก็มีเวลาที่จะเลือกรับฟังเมื่อพร้อม อ่านซ้ำ ฟังซ้ำได้ เพื่อให้เวลาตัวเองได้ทบทวน
Social media มีหลากหลายช่องทางให้เราเลือกใช้ตามความต้องการ แต่ควรใช้กันแต่พอเหมาะพอดีและเลือกนำข้อดีมาใช้ให้เกิดผลดีต่อชีวิตครอบครัวนะคะ