BINGE EATING DISORDER
เป็นอาการของบุคคลที่ชอบทานอะไรครั้งละมากๆ และมักชอบทานแบบเร็วๆ ไว้ก่อน
ซึ่งโรคเป็นโรคที่มีความแตกต่างจากโรคอะนาเล็กเซีย (โรคคลั่งผอม) เนื่องจากผู้ป่วยที่ป่วยเป็นโรคนี้หลายเคสมักเลือกที่จะไม่ทำการล้วงคอเพื่อเอาของที่ทานเข้าไปออกมาหรือการพยายามออกกำลังกายเพื่อการกำจัดสิ่งที่เรียกว่าแคลอรีออกไป แต่จะมีลักษณะของการรู้สึกไม่โอเค รู้สึกไม่ดี รู้สึกผิดกับพฤติกรรมของตนเองมากกว่า
แต่ถึงแม้จะรู้สึกแย่เพียงใดก็ยังคงมีพฤติกรรมแบบเดิมอยู่เรื่อยๆ โดยไม่สามารถที่จะควบคุมตัวเองได้เลยนั่นเอง ส่วนใหญ่แล้วโรคนี้มักสามารถพบได้ในกลุ่มวัยรุ่นช่วงปลาย (โดยเฉลี่ยอยู่ที่ช่วงอายุโดยประมาณ 23 ปี) และโรคนี้มักพบได้ในผู้หญิงมากกว่า
สำหรับสาเหตุของโรคนี้มักเกิดจาก…
1.พฤติกรรมการลดน้ำหนักแบบไม่ถูกต้อง
อาทิเช่น การพยายามลดน้ำหนักด้วยการอดอาหาร เป็นต้น ซึ่งนอกจากจะไม่ทำให้ผอมแบบถาวรแล้ว ก็ยังทำให้ร่างกายขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายไปอีกด้วย
2.ความเครียด
สิ่งนี้เรียกว่าค่อนข้างเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่อตัวผู้ป่วยเป็นอย่างมาก เพราะยิ่งเครียดมากเท่าไหร่ก็จะทำให้เสี่ยงต่อการป่วยด้วยโรคนี้มากเท่านั้น
3.ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของครอบครัว
ที่ยังคงฝังใจอยู่หรือเรื่องของความกดดันทางด้านสังคมจนนำมาสู่การเกิดความเครียด ซึ่งก็ก่อให้เกิดเป็นโรคดังกล่าวในที่สุด เพราะฉะนั้นควรปล่อยวางและผ่อนคลายความเครียดให้น้อยลงจะดีกว่า
สำหรับความอันตรายของโรคนี้ คือ สามารถนำไปสู่ปัญหาทางด้านสุขภาพต่างๆ ตามมาได้ไม่ว่าจะเป็นโรคเบาหวานประเภทที่สอง, โรคความดันโลหิตสูง, โรคหัวใจ, โรคอ้วน, โรคที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของระบบการย่อยอาหาร, การบาดเจ็บที่บริเวณกระดูกรวมถึงกล้ามเนื้อและข้อต่อ ฯลฯ
เช็คลิสต์ว่า “เราเป็น BINGE EATING DISORDER” หรือไม่?
- รู้สึกทานอาหารมากกว่าที่เคยทาน
- ทุกครั้งที่เริ่มทานก็เหมือนจะควบคุมไม่ได้
- ทุกครั้งที่ทานอาหารย่อมทานเร็วขึ้นเสมอ
- สามารถทานอาหารได้เรื่อย ๆ แม้ว่าจะอิ่มปานใดก็ตาม
ถ้ามีอาการเหล่านี้ร่วมกันแล้วล่ะก็… สดสวยแนะนำให้เพื่อนๆ ลองกลับมาปรับพฤติกรรมการกินเบื้องต้นดูใหม่ แต่หากมีอาการที่หนักมากขึ้นเรื่อยๆ การไปปรึกษาแพทย์จะเป็นทางออกที่ดีที่สุด