ช่วงเทศกาลสงกรานต์ เป็นช่วงที่มีวันหยุดยาวจึงมีการใช้รถใช้ถนนจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนมากกว่าช่วงเวลาปกติ ส่วนเรื่องสุขภาพก็สุ่มเสี่ยงไม่แพ้กัน เพราะการเล่นน้ำสงกรานต์อาจนำมาซึ่งโรคภัยไข้เจ็บหรืออุบัติเหตุต่างๆ หากขาดความระมัดระวัง แล้วอย่างนี้เราจะปกป้องตัวเองอย่างไรดีล่ะ?
ข้อมูลจากศูนย์อำนวยการเพื่อความปลอดภัยทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2559 เกิดอุบัติเหตุทางถนน 3,447 ครั้ง เสียชีวิต 442 ราย บาดเจ็บ 3,656 ราย สาเหตุอันดับหนึ่ง จากการเมาสุรา ร้อยละ 34.09 รองลงมาคือ ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 32.93 ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บเป็นกลุ่มวัยรุ่น (อายุ 15-24 ปี) สูงถึงร้อยละ 29.67 โดยวันที่เกิดอุบัติเหตุสูงมักอยู่ในช่วงวันเล่นน้ำสงกรานต์ คือ วันที่ 13-15 เมษายน
4 ข้อ เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนปฏิบัติตาม
- ไม่ดื่มสุรา ทั้งก่อนและขณะขับรถ
- ไม่เล่นน้ำบนท้ายกระบะรถยนต์ และขณะขับขี่รถจักรยานยนต์
- ขับรถด้วยความเร็วตามกฎหมายกำหนด คือ 90 กม./ชม. ในเขตนอกเมือง ในเขตเมืองใช้ความเร็วตามป้ายกำหนด และเขตชุมชนไม่เกิน 50 กม./ชม.
- คาดเข็มขัดนิรภัยทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร สวมหมวกนิรภัยทุกครั้งที่ขับขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์
4 ข้อแนะนำในการดูแลสุขภาพช่วงเทศกาลสงกรานต์
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่าเล่นน้ำสงกรานต์เพลินจนลืมเติมน้ำให้ร่างกายเพราะถ้าขาดน้ำก็จะทำให้โลหิตข้นขึ้น ซึ่งจะทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานลำบากมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้เหนื่อยง่ายและอ่อนเพลีย
- ปกป้องผิวจากแสงแดดด้วยการทาครีมกันแดด แต่งกายอย่างมิดชิดสวมแว่นตากันแดด สวมหมวก
- หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ จะยิ่งทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากขึ้น ทั้งยังไปเพิ่มแรงดันโลหิตให้สูงขึ้น อาจทำให้ร่างกายปรับสภาพไม่ทันจนถึงขั้นช็อกได้
- อาบน้ำให้สะอาดหลังเล่นสงกรานต์เสร็จ การเล่นน้ำทำให้ตัวเปียกชื้น และอาจทำให้ผิวสกปรกจากน้ำที่ไม่สะอาด รวมถึงการเล่นแป้งหรือดินสอพอง ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของอาการผื่นคันหรืออาการเจ็บป่วย
ทั้งนี้ ผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เป็นกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อสูง ควรหลีกเลี่ยงการเล่นน้ำและไม่ควรเข้าไปอยู่ในที่ที่มีผู้คนอยู่รวมกลุ่มกันมากๆ เพราะอาจป่วยได้
