ไม่เพียงแค่ตอนตั้งครรภ์เท่านั้นที่คนเป็นแม่ต้องให้ความสำคัญ แต่การจะได้ครรภ์ที่มีคุณภาพ เบบี๋คลอดมาอย่างสมบูรณ์แข็งแรง ไร้ภาวะแทรกซ้อนนั้น ต้องเริ่มจากการเตรียมตัวที่ดีของคุณแม่ก่อนตั้งครรภ์ (รวมถึงคุณพ่อ) ในส่วนของอายุของหม่ามี้ก็ไม่ควรมองข้าม หากมากหรือน้อยเกินไปอาจนำไปสู่ความเสี่ยงได้
ข้อมูลจาก ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย พบว่า…
ช่วงเวลาทองของการมีลูกคือช่วงอายุ 20 – 34 ปี แต่เวลาทองของเวลาทองจริงๆ คือ ช่วงอายุ 24 – 29 ปี ที่สมควรจะต้องมีลูก
มีการศึกษาพบว่าผู้หญิงที่อายุ 30 ปีไปแล้วจะมีโอกาสตั้งครรภ์ลดลงกว่ากลุ่มผู้หญิงในช่วงอายุ 20 ปี เนื่องมาจากภาวะการตกไข่ที่ลดน้อยลงโดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่วัย 35 ปีขึ้นไป ซึ่งถือกันว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับผู้หญิงที่ต้องการมีบุตร
โดยพบว่าผู้หญิงจำนวนถึงหนึ่งในสามของกลุ่มนี้ มีปัญหาการมีบุตรยาก ขณะที่ความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายต่างๆ รวมถึงความเสี่ยงที่จะเกิดโรคต่าง ๆ ก็จะเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน เช่น ภาวะเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ภาวะครรภ์เป็นพิษ ภาวะรกเกาะต่ำ การแท้งบุตร ความผิดปกติทางพันธุกรรมของทารก
นอกจากอายุที่เหมาะสมแล้ว หากมีการเตรียมความพร้อมที่ดีก็จะช่วยให้เด็กมีคุณภาพตั้งแต่อยู่ในครรภ์ นั่นคือ การเสริมด้วยวิตามินโฟลิกและธาตุเหล็ก กินสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เป็นเวลา 3 เดือนก่อนการตั้งครรภ์ จะช่วยลดความเสี่ยงภาวะพิการของเด็กในท้องได้ ดังนั้น ผู้หญิงเมื่อเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ก็สามารถกินวิตามินดังกล่าวได้เลย เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม ซึ่งไม่มีผลข้างเคียงใดๆ
ส่วนหญิงที่ตั้งครรภ์แล้วเมื่อมาฝากครรภ์ก็จะได้รับวิตามินรวม 3 ตัว คือ เหล็ก โฟลิก และ ไอโอดีน ดูแลเรื่องการรับประทานวิตามินที่จำเป็นสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์แล้ว ก็อย่าละเลยเรื่องพื้นฐานอย่างการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ในสัดส่วนและปริมาณที่เหมาะสม รวมถึงมีความหลากหลายของชนิดอาหารด้วย ที่สำคัญ หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ภายใต้การแนะนำของแพทย์ เพื่อให้สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงพร้อมแก่การมีเจ้าตัวเล็ก
กว่าจะมีเจ้าตัวเล็กที่แข็งแรงสมบูรณ์ให้คุณแม่ชื่นใจ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะคะ สิ่งสำคัญคือการวางแผนและเตรียมตัว แม้เรื่องเล็กน้อยหากไม่ใส่ใจอาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ยากเกินแก้ไขได้นะคะ