“ยาปฏิชีวนะ”
หรือ “แอนตี้ไบโอติก” หรือ “ยาต้านจุลินทรีย์” เป็นยาที่ผลิตมาจากสิ่งมีชีวิต เพื่อใช้รักษาโรคติดเชื้อ ซึ่งแบ่งออกเป็นกลุ่มย่อยตามคุณสมบัติในการกำจัดเชื้อแต่ละชนิด เช่น ยาต้านเชื้อแบคทีเรีย ยาต้านไวรัสในสังคมไทยหลายคนมักเรียกยากลุ่มนี้เป็นยาแก้อักเสบทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าการใช้ยานี้จะทำให้โรคที่เป็นอยู่หายเร็วขึ้นซึ่งไม่จริง!
ในหลายๆ ประเทศได้กำหนดว่าการสั่งจ่ายยาปฏิชีวนะสามารถทำได้ โดยการได้รับอนุญาตจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น สาเหตุเป็นเพราะการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างผิดๆ และใช้มากเกินไปเป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้เกิดการดื้อยา
ซึ่งการดื้อยา หมายถึง การที่เชื้อโรคที่เป็นสาเหตุ ของการเจ็บป่วยดื้อต่อยาปฏิชีวนะที่เคยใช้รักษาได้ผล
หากเกิดการดื้อยาขึ้นทำให้เชื้อแบคทีเรียมีการพัฒนาและปรับตัวในการดื้อยา ทำให้การทานยาปฏิชีวนะไม่ได้ผลอีกต่อไปอาจถึงขั้นที่ว่าแม้แต่ในอาการติดเชื้ออย่างธรรมดาในขั้นไม่รุนแรงยาปฏิชีวนะก็ไม่สามารถจะช่วยได้
วิธีใช้ยาปฏิชีวนะอย่างปลอดภัย
- เมื่อมีอาการป่วยควรไปพบแพทย์ และให้แพทย์เป็นผู้สั่งยาให้ เพราะแพทย์จะพิจารณาอย่างรอบคอบ และรู้ว่าอาการอย่างใดจะใช้ยาปฏิชีวนะตัวไหนที่จะไม่ไปทำอันตรายต่ออวัยวะส่วนอื่น ซึ่งส่งผลร้ายต่อร่างกาย โรคที่กินยาอย่างผิดๆ จะทำให้อาการของโรคเป็นมากขึ้นจนถึงขั้นเสียชีวิตได้
- รับประทานยาตามที่แพทย์กำหนดอย่างต่อเนื่องจนครบวัน แม้จะรู้สึกว่าอาการดีขึ้นแล้วก็ไม่ควรหยุดยา รวมถึงทำตามคำสั่งของแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อให้อาการเจ็บป่วยหายขาด เช่น รับประทานทานยาก่อนอาหาร หรือหลังรับประทานอาหาร สอบถามให้ชัดเจนว่ายานี้ไม่ควรรับประทานกับอาหารชนิดใดบ้าง
- ไม่ควรแบ่งยาปฏิชีวนะที่เรามีให้กับผู้อื่นรับประทาน โรคที่เกิดขึ้นในแต่ละคนมีอาการและความรุนแรงแตกต่างกัน ควรให้แพทย์ผู้มีความเชี่ยวชาญเป็นผู้วินิจฉัยและจ่ายยาตามรายบุคคลเท่านั้น
ยาปฏิชีวนะตัวเดียวไม่สามารถใช้กับทุกโรคได้ อย่าซื้อรับประทานเองโดยไม่ไปพบแพทย์ เพราะจะส่งผลร้ายต่อตัวเราเองและคนรอบข้างได้