ตรุษจีน ถือเป็นเทศกาลสำคัญที่ต้องเตรียมอาหารคาวหวาน สิ่งของเครื่องใช้มงคลต่างๆ สำหรับกราบไหว้บูชาเทพเจ้าและบรรพบุรุษผู้ล่วงลับไปแล้ว อาหารคาวที่นิยมนำมาไหว้ ได้แก่ หมู เป็ด ไก่ ปลา และกุ้งส่วนขนมไหว้วันตุรษจีนที่นิยม ได้แก่ ขนมถ้วยฟู ขนมเข่ง และขนมเทียนซึ่งการนำอาหารเหล่านี้มาบริโภคต่อโดยไม่ระมัดระวังอาจนำมาสู่ปัญหาสุขภาพได้

เคล็ดลับการรับประทานอาหารและขนมตรุษจีนให้ดีต่อสุขภาพ

1. รับประทานอาหารในปริมาณและสัดส่วนที่เหมาะสม

โดยอาหารตรุษจีนส่วนใหญ่เป็นเนื้อสัตว์ ทำให้มีปัญหาด้านสุขภาพ เช่น ท้องอืด ย่อยยาก ท้องผูก จึงควรบาลานซ์สัดส่วนของอาหารประเภทต่าง ๆ ให้เหมาะสมต่อความต้องการของร่างกาย สำหรับผู้สูงอายุมักมีปัญหาเรื่องการเคี้ยว ควรเลือกอาหารและวิธีการปรุงให้เหมาะสม เช่น นำเนื้อสัตว์ไปต้มหรือตุ๋นใส่ผัก แทนการทอด เพื่อให้เคี้ยวและย่อยง่าย

2. อาหารที่มีรสหวาน มัน เค็ม อาจกระตุ้นอาการของโรคบางชนิด

เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด ควรรับประทานอาหารที่มีไขมันน้อย เช่น เนื้อไก่ไม่ติดหนัง เนื้อปลา ในปริมาณที่พอเหมาะ

3. การนำเนื้อสัตว์จากการไหว้มาปรุงอาหารต่อ ควรเลือกวิธีการให้ดีต่อสุขภาพ

เช่น เลือกใช้วิธีนึ่ง ต้ม ผัด แทนการทอด อาหารผัดควรใช้น้ำมันน้อยๆ และเลือกใช้น้ำมันที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวในการประกอบอาหาร เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว น้ำมันถั่วเหลือง ปรุงรสอ่อน ๆ ลดเค็มจัด เพื่อป้องกันความดันโลหิตสูง

4. จำกัดปริมาณในการรับประทานขนมไหว้

เช่น ขนมถ้วยฟู ขนมเข่ง ขนมเทียนให้น้อยที่สุด เพราะอาหารเหล่านี้มีแป้ง ไขมัน และน้ำตาลในปริมาณค่อนข้างมาก รวมถึงหลีกเลี่ยงการนำไปทอดเพิ่มน้ำมัน

5. เพิ่มสัดส่วนการรับประทานผักผลไม้

หรือธัญพืชให้มากขึ้น เพื่อสุขภาพที่ดี ผักผลไม้มีวิตามิน เกลือแร่ มีใยอาหารสูง ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ ช่วยกระตุ้นให้มีการขับถ่ายของเสียทุกวัน

6. ถ้าหากรับประทานไม่หมดในคราวเดียว

ไม่ควรทิ้งไว้บนโต๊ะอาหาร ควรเก็บอาหารแช่ใส่ตู้เย็นให้เรียบร้อย และรีบรับประทานให้หมดโดยเร็ววัน เพราะยิ่งแช่ตู้เย็นไว้นาน คุณค่าทางโภชนาการก็ยิ่งลดลง

นอกจากเลือกรับประทานอาหารอย่างชาญฉลาดแล้ว ควรขยับเขยื้อนร่างกาย หรือออกกำลังกายเพิ่มขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดไขมันสะสมในร่างกายอันจะนำไปสู่ปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ได้