ประเทศไทยมีสภาพอากาศที่ร้อนชื้น อาจส่งผลให้อาหารและวัตถุดิบหลายชนิดขึ้นรา ซึ่งได้แก่ เชื้อราแอสเพอร์จิลัสฟลาวัส และแอสเพอร์จิลัส พาราซิติคัส ที่มีสีเขียวหรือสีเขียวแกมเหลือง จะสร้างสารอะฟลาทอกซิน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งในตับชนิดร้ายแรง อย่ามองเป็นเรื่องเล็กเพราะอันตรายจากอะฟาทอกซินอยู่ใกล้ตัวเรามากๆ ว่าแล้วก็มาหาวิธีป้องกันตัวจากสารพิษชนิดนี้กันเถอะ
“สารอะฟลาทอกซิน”(Aflatoxin)
พบได้ในอาหารและผลิตผลทางการเกษตร เช่น อาหารจำพวกแป้ง และผลิตภัณฑ์จากแป้ง ข้าว ข้าวโพด ถั่วลิสง กระเทียม พริกแห้ง พริกป่น กุ้งแห้ง สมุนไพร เป็นต้น
ที่อันตรายคือสารพิษชนิดนี้ทนความร้อนได้ถึง 260 องศาเซลเซียส ทำให้การปรุงอาหารไม่สามารถทำลายพิษได้ สำหรับบ้านเรา กระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศกำหนดให้สารนี้ปนเปื้อนอาหารได้ไม่เกิน 20 ไมโครกรัมต่อกิโลกรัมอาหารเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคในประเทศไทยเช่นเดียวกัน
วิธีเลี่ยงอาหารปนเปื้อน “อะฟลาทอกซิน”
- เลือกซื้อวัตถุดิบ อาหารแห้ง เครื่องปรุงรส สภาพใหม่ ไม่แตกหัก ไม่ขึ้นรา ไม่มีกลิ่นอับชื้น จับเป็นก้อน หรือมีสีผิดปกติ
- นำถั่วลิสงหรืออาหารแห้งไปตากแดดก่อนที่จะนำมาเก็บรักษาหรือลดความชื้นด้วยการอบแห้ง วิธีเหล่านี้จะช่วยลดความชื้น ทำให้เชื้อราไม่สามารถเจริญเติบโตได้ ส่งผลให้อัลฟลาทอกซินที่ถูกสร้างจากเชื้อราลดลงไปด้วย
- ควรแยกใช้เขียง โดยแบ่งเป็นเขียงสำหรับเนื้อสัตว์สด ผักสด และอาหารปรุงสุกไม่นำเขียงหั่นอาหารสดมาใช้หั่นอาหารสุกหรือใช้ปะปนกัน เนื่องจากเขียงอาจเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคต่างๆ ได้
- ความสะอาดเขียงทุกครั้งภายหลังการใช้ โดยกวาดเศษอาหารออกจากหน้าเขียงให้หมด แล้วใช้น้ำยาล้างจานล้างคราบไขมันที่เกาะออกและล้างน้ำหลายๆครั้ง และผึ่งแดดให้แห้ง
- เขียงที่ใช้หั่นเนื้อสัตว์สด ควรขูดเศษเนื้อสัตว์และไขมันออกจากหน้าเขียง ล้างเขียงโดยใช้น้ำร้อนราดให้ทั่วเขียงเพื่อขจัดคราบไขมัน หรือใช้น้ำสะอาดผสมน้ำยาล้างจาน และถูด้วยแปรงจนสะอาด ล้างน้ำซ้ำ เพื่อป้องกันสารตกค้าง และผึ่งแดดให้แห้ง
- ควรเก็บเขียงไว้ในที่สะอาด อากาศโปร่ง และผึ่งแดดสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันเชื้อรา