ช่วงหลังๆ มานี้ได้ยินข่าวสาวๆ หลายคนนิยมโกนขนบนใบหน้า หลายคนไม่กล้าเสี่ยงเพราะไม่รู้ว่าเกิดผลเสียอะไรบ้าง แต่บางคนก็ลองกันไปตามกระแส แล้วจริงๆ ผลลัพธ์เป็นอย่างไร วันนี้สดสวยหาข้อมูลมาบอกต่อกันไว้แล้วค่ะ
ก่อนที่คุณสาวๆ จะเริ่มโกนขนบนใบหน้า อย่างน้อยควรเรียนรู้วิธีทำที่ถูกต้องก่อนนะคะ
- อย่างแรกต้องทำใบหน้าให้เปียกโดยใช้ครีมหรือเจลสำหรับโกนขน
- จากนั้นก็โกนตามแนวที่ขนขึ้น
- ปิดท้ายด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ที่มีส่วนประกอบของสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งจะช่วยทำให้การแทรกซึมดีขึ้นพร้อมกับบรรเทาอาการอักเสบและระคายเคืองได้
ส่วนผลลัพธ์หลังจากโกนแล้วจะเป็นเช่นไร ไปดูกัน
- เหมือนได้ขัดผิวไปในตัว เพราะการโกนขนบนใบหน้าไม่ต่างจากการขัดผิวหน้าเลย
- เข้าใจผิดแล้วล่ะ ขนจะไม่ขึ้นมาหนากว่าเดิม ทั้งการแวกซ์ขนและ โกนขนไม่ได้ช่วยให้ขนขึ้นเร็วกว่าเดิมหรือหนาขึ้นกว่าเดิม เพราะรูขุมขนบนผิวหนังของเรามีจำนวนเท่าเดิม ยกเว้นว่าจะไปกระชับรูขุมขนหรือกำจัดขนด้วยเลเซอร์ ดังนั้น เส้นขนก็จะงอกขึ้นมาใหม่ในปริมาณที่เท่าเดิมและหนาเท่าเดิม
- มีข้อเสียอยู่เหมือนกันนะ เพราะมันจะกลายเป็นตอ ซึ่งคุณจะได้เห็นหลังจากที่โกนขนออกไปประมาณสองวัน แต่ก็สามารถปกปิดได้ด้วยการรองพื้นหนาๆ หน่อย
- อันนี้สาวๆ คงชอบ เพราะแต่งหน้าได้ง่ายขึ้น เนื่องจากการโกนขนจะทำให้ใบหน้าเรียบเนียนและเครื่องสำอางติดทนนาน
- แย่ละ คุณอาจประสบกับปัญหาขนคุด ปัญหานี้จะเกิดขึ้นหากคุณโกนขนผิดวิธีและไม่ได้ใช้ครีมสำหรับโกนขน
- ผิวอาจเกิดการระคายเคืองจากมีดโกน เราต้องดูแลผิวที่บอบบางเป็นพิเศษ และเพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคืองจากมีดโกนฉะนั้นคุณควรใช้ครีมสำหรับโกนขนร่วมด้วย
- โกนแล้วโกนเลย ต้องทำเป็นประจำ ไม่ว่าจะโกนเปียกหรือโกนแห้งก็ต้องหมั่นดูแลและบำรุงอย่างสม่ำเสมอหากคุณไม่ต้องการให้ขนคุดขึ้นบนใบหน้า