การรับประทานอาหารสําหรับผู้ป่วยเบาหวานถือเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจอย่างมาก เพราะจะต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้สูงเกินกว่ากำหนด เรียกว่าต้องระวังตั้งแต่อาหาร เครื่องดื่ม หรือแม้กระทั่งผักและผลไม้
บางคนเลือกที่จะไม่หม่ำผลไม้เลย เพราะคิดว่ารสหวานๆ ของผลไม้น่าจะส่งผลต่อน้ำตาลในเลือดแน่ๆ ขอบอกว่าเป็นความคิดที่ผิดเชียวล่ะ!!
ใครว่าเป็นเบาหวานจะไม่สามารถรับประทานผลไม้ได้ ตรงกันข้ามผลไม้เป็นเมนูที่ดีต่อสุขภาพ อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ไม่ว่าจะเป็นวิตามิน แร่ธาตุ และไฟเบอร์ที่สำคัญน้ำตาลในผลไม้ก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด สิ่งสำคัญอยู่ที่การเลือกรับประทานต่างหาก ควรเลือกผลไม้ที่มีน้ำตาลน้อย หลีกเลี่ยงผลไม้รสหวานจัด รวมถึงผลไม้แห้งและผลไม้แปรรูป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ โดยผลไม้ที่เราอยากแนะนำให้ผู้ป่วยเบาหวาน มีดังนี้
- “แอปเปิ้ล” เป็นผลไม้ที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวานและผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำตาลในเลือด เนื่องจากมีน้ำตาลในรูปของน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวค่อนข้างสูงทำให้ร่างกายดูดซึมและนำไปใช้ประโยชน์ได้รวดเร็ว อีกทั้งยังมีไฟเบอร์ที่สามารถละลายในน้ำได้ดีและช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้
- “ชมพู่” เป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลน้อย ไม่หวานจัด แถมยังมีเส้นใยอาหารทั้งชนิดที่สามารถละลายน้ำได้และชนิดที่ไม่สามารถละลายน้ำ อีกทั้งยังมีสรรพคุณช่วยลดคอเลสเตอรอลในร่างกาย ลดความเสี่ยงไขมันอุดตันในเส้นเลือด และช่วยในเรื่องของระบบขับถ่าย ปริมาณที่แนะนำคือไม่เกินมื้อละ 1-2 ผล
- “ฝรั่ง” มีใยอาหารสูง แถมแคลอรี่ต่ำ ปริมาณที่แนะนำคือไม่เกินวันละ1ผลเล็กหรือครึ่งผลใหญ่
- “แก้วมังกร” อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลากหลายชนิด ซึ่งมีสรรพคุณช่วยรักษาโรคเบาหวานปริมาณที่แนะนำคือมื้อละไม่เกิน 10-15 คำ
- “สับปะรด” มีกากใยอาหารมากซึ่งมีความสำคัญกับการย่อยอาหาร ช่วยลดคอเลสเตอรอล ควบคุมน้ำตาลในเส้นเลือด
ทั้งนี้ผู้ป่วยเบาหวานควรเลือกรับประทานผลไม้มื้อละ 1 ชนิด วันละ 2-3 ครั้งหลังอาหาร และรับประทานแต่พอเหมาะเพราะอาจส่งผลทำให้น้ำตาลในเลือดสูงได้แม้เป็นผลไม้ที่มีรสชาติหวานน้อยก็ตาม
