ปัจจุบันโรคภูมิแพ้ถือเป็นโรคยอดฮิตสำหรับเด็กๆ และมีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งอาจจะเกิดจากมลภาวะที่เพิ่มมากขึ้น สิ่งแวดล้อมล้อมตัว ภาวะอาหารการกินของผู้คนที่เปลี่ยนไป หรือบางกระแสก็มีการพาดพิงไปถึงเรื่องการตัดต่อพันธุกรรมของผู้ผลิตนมบางรายที่หวังผลทางการตลาดระยะยาวในกรณีที่เด็กต้องกินนมพิเศษซึ่งมีราคาแพงกว่านมทั่วไปหลายเท่า
แต่จะด้วยสาเหตุใดก็ตาม ถ้าคุณแม่ไม่อยากให้ลูกน้อยตามกระแสภูมิแพ้ฟีเวอร์ แม่นุ่นก็มีเคล็ด(ไม่) ลับง่ายๆ มาบอกกันค่ะ
เริ่มจากคุณแม่ ตัวคุณแม่เองสามารถช่วยปกป้องลูกน้อยจากโรคภูมิแพ้ได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ดังนี้
- รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ไม่ควร กินอาหารชนิดใดซ้ำๆ กันมากเกินควร
- เช็กประวัติทางพันธุกรรม หากลูกมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคภูมิแพ้ ควรลดการรับประทานอาหารที่มักเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดโรค เช่น นมวัว ข้าวสาลี ถั่ว ฯลฯ
กินนมแม่ ควรให้ลูกกินนมแม่อย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือนเพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน
เลือกสรรอาหารให้ลูก
- เลี่ยงอาหารเสริมจากที่มีส่วนผสมของนมวัวในช่วง 6 เดือนแรก
- ให้ไข่แดงเมื่อลูกอายุ 6 เดือนขึ้นไป
- ค่อยๆ เริ่มให้กินนมวัว ไข่ขาว ถั่ว อาหารทะเล หลังอายุ 1 ปี
- การให้ลูกทดลองกินอาหารใหม่ๆ ควรให้ลองทีละอย่างเพื่อสังเกตอาการแพ้ของลูก
จัดสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสม
- ทำความสะอาดบริเวณต่างๆ ของบ้านให้สะอาดอยู่เสมอ โดยเฉพาะบริเวณที่ลูกต้องสัมผัส
- ห้องนอนของลูกควรสะอาด ปลอดโปร่ง แสงส่องถึง และจัดเก็บเฉพาะเครื่องใช้เท่าที่จำเป็นเท่านั้นค่ะ เพราะหมอน ผ้าห่ม หรือตุ๊กตาที่มากเกินจำเป็นก็เป็นตัวกักเก็บฝุ่นชั้นดีทีเดียว
- ไม่สูบบุหรี่ในบริเวณที่ลูกอยู่ และหลีกเลี่ยงการพาลูกไปอยู่ในบริเวณที่มีควันหรือมลพิษทางอากาศ
เพียงเท่านี้ก็สามารถลดความเสี่ยงของการเกิดหรือช่วยยับอาการของโรคภูมิแพ้ในเบื้องต้นได้แล้วค่ะ