เป็นเรื่องน่าแปลกใจสำหรับผู้ทำวิจัยเกี่ยวกับอายุหมดประจำเดือน เพราะขณะที่อายุมีประจำเดือนครั้งแรกลดต่ำลงเรื่อยๆจาก 14 ปี เมื่อ 20 ปีก่อนมาเป็น 12 ปีในปัจจุบัน แต่อายุของการหมดประจำเดือนตามธรรมชาติไม่เคยเปลี่ยนแปลงมาหลายสิบปีคืออยู่ในช่วงอายุ 48-51 ปี ซึ่งเมื่อหมดประจำเดือนครบ 1 ปี จึงเรียกว่า… “วัยทอง”
หากมีเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้รังไข่หยุดทำงานก่อน 40 ปีมักจะทำให้เกิดอาการเหมือนคนวัยทอง เมื่อเจาะเลือดพบความผิดปกติของระดับฮอร์โมนก็เรียกว่าวัยทอง แต่เป็นวัยทองก่อนวัยอันควรหรือวัยทองที่มาถึงเร็วเกินไป ภาวะนี้พบร้อยละ 1 ของผู้หญิงทั่วไป
ผลกระทบนอกจากทำให้ไม่สามารถมีลูกได้ยังมีผลต่อสุขภาพดังนี้
- มีอาการวัยทอง เช่น ร้อนวูบวาบ หงุดหงิด นอนไม่หลับเครียดซึมเศร้า ผิวแห้ง ปัสสาวะบ่อย่องคลอดแห้งจากอาการขาดฮอร์โมนเพศหญิงเอสโทรเจนและมักจะมีอาการรุนแรงซึ่งควรรักษาด้วยการใช้ฮอร์โมนเพศหญิงเพื่อทดแทนอาการหมดประจำเดือน
- เสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน เสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดมากกว่าคนในวัยเดียวกัน
- นอกจากนี้อาจมีภาวะฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง ส่งผลให้ผนังช่องคลอดที่เคยหนา ยืดหยุ่น พองตัวได้และมีรอยพับหยักก็กลับเรียบ ขาดความยืดหยุ่นเมื่อมีเพศสัมพันธ์ก็เกิดอาการเจ็บ จึงอาจส่งผลให้ชีวิตรักกับสามีหรือคนรักเกิดปัญหาได้ ผนังบุช่องคลอดที่แห้ง จะไม่สามารถปล่อยสารไกลโคเจน (Glycogen) มาคอยดูแลช่องคลอดได้เหมือนเดิม เชื่อโรคแปลกปลอมจึงสามารถเข้ามาในบริเวณช่องคลอดได้ง่าย หรือเราเรียกว่า “ภาวะช่องคลอดแห้ง” อ้างอิง : YingYaiHotline.com แต่โดยทั่วไปจะใช้วิธีรักษาด้วยการใช้ยาสอดเพิ่มความชุ่มชื่นให้ช่องคลอด ยาสอด Gynoflor จุลินทรีย์สอดช่องคลอด ใช้อย่างไรให้ได้ผล & ปลอดภัย อ่านเพิ่มเติมที่นี่ คลิก
วิธีรับมือที่ได้ผลจริง นอกจากใช้ฮอร์โมนเพื่อทดแทนอาการหมดประจำเดือนแล้ว ควรปฏิบัติดังนี้
ดูแลสุขภาพและน้ำหนัก
ดูแลสุขภาพกายให้แข็งแรง ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่ผอมหรืออ้วนจนเกินไป งดหรือลดการสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า น้ำอัดลม และกาแฟให้กินอาหารที่มีแคลเซียมและวิตามินสูงเช่น โยเกิร์ต ธัญพืช ปลาเล็กปลาน้อย ผักเขียวผลไม้และโดนแสงแดดเป็นประจำ
ลดเครียด มองโลกแง่บวก
ลดความเครียด มองโลกด้านบวกหรือหาวิธีลดความเครียดที่ชอบและใช้ได้ผลเช่น นวด สปาโยคะ ทำสมาธิ อ่านหนังสือ ฟังเพลง ทำงานศิลป์หันไปศึกษาคำสั่งสอนทางศาสนา ฯลฯ
ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย 3-4 ครั้งในสัปดาห์ ครั้งหนึ่งนานประมาณครึ่งชั่วโมงเพื่อช่วยให้กระดูกและกล้ามเนื้อแข็งแรง อารมณ์ดีผ่อนคลายความเครียด