อีกหนึ่งปัญหาผิวที่หลายคนอาจเข้าใจผิด บางคนอาจมีผิวที่มีความมันเยอะมาก ถ้าใครถามก็คงจะตอบว่าเป็นคนผิวมัน (มาก) ใช่ไหมล่ะคะ แต่แท้จริงแล้วหากลองไปตรวจสภาพผิวดีๆ คุณอาจมีผิวที่แห้งมากก็ได้ ซึ่งการที่ผิวแห้งมากทำให้น้ำมันในผิวผลิตออกมาเพื่อเติมความชุ่มชื่นให้ผิวจนผิดปกติ
ผลสุดท้ายทำให้เรากายเป็นคนผิวมันมากจนปัญหาสิวต่างๆ ตามมา อาการของคนที่ผิวแห้งแต่น้ำมันเยิ้มบนหน้าก็คือ ผิวจะมันมากแต่ก็ยังรู้สึกหยาบกร้านขาดความชุ่มชื้น ซึ่งมันจะไม่เหมือนคนที่ผิวมันปกติ
ดังนั้นเราต้องแยกให้ออกว่าเรามีปัญหาผิวแบบไหนกันแน่ แต่ถ้าไม่แน่ใจก็ควรไปปรึกษาแพทย์ให้ชัดเจนก่อน
ไม่น่าเชื่อว่าต้นเหตุของปัญหานี้เกิดได้ทั้งการใช้ครีมไวเทนนิ่งบางตัว หรือการทำเลเซอร์บางชนิดจะทำให้ความชุ่มชื้นใต้ผิวของเราถูกทำลายลงไปและเสียสมดุลตามธรรมชาติ ทางออกของปัญหาผิวก็คือเราต้องรักษาสมดุลของผิวให้เป็นปกติ เพื่อลดการผลิตน้ำมันแบบเกินความจำเป็น วิธีทำก็คือวิธีธรรมชาตินี่ล่ะค่ะ
ล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง
การที่เราเข้าใจว่าเรามีผิวมันเพราะน้ำมันผลิตออกมาเยอะเกินไปทั้งๆ ที่แท้จริงแล้วเรามีผิวแห้ง ทำให้เราล้างหน้าบ่อยจนเกินความจำเป็น ซึ่งจะทำให้ผิวยิ่งแห้งลงไปอีก ดังนั้นล้างเพียงวันละสองครั้งเช้าและเย็น ส่วนระหว่างวันแนะนำให้ใช้สเปรย์น้ำแร่ วิธีการคือนำกระดาษทิชชูแผ่นนุ่มๆ โปะลงบนหน้าแล้วซับเอาความมันออกอย่างเบามือเสียก่อน จากนั้นฉีดสเปรย์น้ำแร่ลงบนผิวหน้าให้ทั่ว แล้วนำกระดาษทิชชูมาโปะทับเพื่อซับน้ำแร่ที่เหลือบนผิวออกจนหมด น้ำแร่จะช่วยเคลียร์ผิวและยังคงความชุ่มชื่นให้ผิวอยู่ค่ะ
ใช้ผลิตภัณฑ์สูตรอ่อนโยน
คนที่มีปัญหาแบบนี้ส่วนใหญ่แล้วเป็นผิวเซ้นซิทีฟ เพราะการทำงานของผิวกำลังผิดปกติอยู่ ดังนั้นจึงควรเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าสำหรับผิวเซ้นซิทีฟเอาไว้ก่อน อย่าเพิ่งเข้าใจไปเองว่าตัวเองผิวแห้งหรือผิวมันจนกว่าจะตรวจเช็คสภาพผิวจนแน่ใจค่ะ
ดื่มน้ำวันละ 2 ลิตร
น้ำสะอาดนี่แหละที่จะช่วยปรับสมดุลผิวได้อย่างดีเยี่ยม ร่างกายของเราต้องการน้ำอุณหภูมิปกติวันละ 2 ลิตร ไม่ว่าคุณจะมีสภาพผิวแบบไหนก็จะช่วยทำให้ผิวทำงานอยู่ในระบบปกติได้ ซึ่งหากผิวแห้งน้ำก็จะเติมความชุ่มชื้นให้ผิว และหากผิวมันน้ำสะอาดก็จะช่วยลดความมันได้ค่ะ