สืบเนื่องจากรายงานสำนักข่าว U.S. News&World Report นำเสนองานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ชี้ให้เห็นว่า อาการนอนไม่หลับนั้นเสี่ยงกระเป๋าฉีกและยากจนลงอย่างไร เฮียจึงขมวดไอเดียสร้างสรรค์เพื่อเป็นทางออก เป็น 3 เรื่องดังนี้…
เรื่องจริงที่ 1 : การนอนไม่หลับกระตุ้นความกลัวและสูญเสียความคิดสร้างสรรค์
คุณหมอนิตัน เวอร์มา ผู้อำนวยการด้านการแพทย์แห่งศูนย์โรคนอนไม่หลับ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ได้ทำการทดลองกับคนงานในซิลิคอนวัลเลย์ รัฐแคลิฟอเนีย พบว่า
“ผู้ที่มีปัญหานอนไม่หลับช่วงวัย 40-50 ปี จะรู้สึกง่วงเหงา หาวนอนในที่ทำงานและกลัวคนงานอายุน้อยกว่าจะเติบโตในหน้าที่การงานแซงหน้าตัวเอง
“ส่วนคนงานอายุ 20-30 ปี อาการนอนไม่หลับจะส่งผลต่อความคิดสร้างสรรค์และบางคนถูกไล่ออกหากเผลอหลับระหว่างการประชุม
แก้ได้ทำแค่นี้!
อาหารช่วยนอนหลับ ได้แก่ กล้วย อัลมอนด์ เชอร์รี่ ชาเขียว ข้าวโอ๊ต ข้าวกล้องหอมมะลิ
เรื่องจริงที่ 2 : การนอนไม่หลับทำให้เสียงบประมาณชาติ คุณพระ!!
Journal of Sleep รายงานว่าคนอเมริกันวัยทำงานจะเสียเวลาการทำงานไปปีละ 11.3 วัน เนื่องจากอาการง่วงซึมระหว่างการทำงาน ทำให้ประเทศสหรัฐอเมริกาสูญเสียรายได้ปีละ 63.2 ล้านล้านดอลลาร์
แก้ได้ทำแค่นี้!
ห้องนอนช่วยนอนหลับ ได้แก่ อุณหภูมิห้องต้องพอเหมาะ ไม่ร้อนหรือเย็นเกินไป มีแสงสว่างเพียงสลัวๆ เท่านั้น ไม่มีเสียงรบกวน สะอาด ไม่มีฝุ่นหรือสิ่งสกปรกสะสม รวมทั้งที่นอนและหมอนต้องไม่แข็งหรือนุ่มเกินไป
เรื่องจริงที่ 3 : การนอนไม่หลับมีผลต่อการตัดสินใจจับจ่าย
คุณมากาเร็ต คิง ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาและวิเคราะห์วัฒนธรรมทิ้งค์แท้งค์ ประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า “ถ้านอนไม่พอ ประสิทธิภาพในการตัดสินใจของคนเราจะลดลง รวมทั้งการควบคุมตนเองและปฏิกิริยาตอบสนองต่ออารมณ์ก็จะแย่ลงด้วย
“คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับการนอนจึงมักติดการพนันหรือเป็นนักช็อป”
แก้ได้ทำแค่นี้!
พฤติกรรมช่วยนอนหลับ ได้แก่ งดชากาแฟก่อนนอน เลิกดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ งดใช้คอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟน 1-2 ชั่วโมงก่อนเวลานอน กินอาหารเย็นก่อนหกโมงและอาบน้ำอุ่น
หากสามารถนอนหลับได้ดีทุกวัน นอกจากสุขภาพโดยรวมดีแล้ว เรายังทำงานได้ดี ประหยัดเงินในกระเป๋า และเชื่อสิว่าจะมีเงินเก็บให้อุ่นใจเพิ่มขึ้นอีกด้วย